‘มาเลเซีย’ รับมอบ “วัคซีนแคนซิโน” ล็อตแรกแล้ววันนี้ ซึ่งเป็นวัคซีนที่ใช้เพียง 1 โดส เหมือนวัคซีนจอห์นสันฯ

386
0
Share:

กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมของมาเลเซีย ได้แถลงว่า ‘วัคซีนแคนซิโน’ ล็อตแรกจำนวน 200,000 โดส ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวัคซีนทั้งหมด 3.5 ล้านโดสที่มาเลเซียสั่งซื้อ จากบริษัทแคนซิโน ไบโอโลจิกส์ ได้เดินทางมาถึงมาเลเซียแล้ววันนี้ ซึ่งวัคซีนชนิดนี้จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งและเพิ่มศักยภาพของประเทศในการสร้างภูมิคุ้มกันโรคโควิดของประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีอัตราการเข้าถึงวัคซีนได้ต่ำ

.

โดยมาเลเซียได้อนุมัติใช้วัคซีนของบริษัทแคนซิโน ไบโอโลจิกส์ เป็นกรณีฉุกเฉินอย่างมีเงื่อนไข เมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา และได้อนุมัติใช้งานวัคซีนของบริษัทซิโนฟาร์ม และบริษัทซิโนแวค ไบโอเทค เช่นเดียวกัน ซึ่งในปัจจุบันได้ดำเนินการฉีดวัคซีนโคโรนาแวค ของบริษัทซิโนแวค ที่นำเข้าจากประเทศจีน และวัคซีนที่บรรจุและปิดผนึกภายในประเทศสำหรับโครงการสร้างภูมิคุ้มกันแห่งชาติของมาเลเซีย

.

ทั้งนี้ ข้อมูลล่าสุดพบว่า นับตั้งแต่เริ่มดำเนินการฉีดวัคซีนเมื่อเดือนก.พ.ได้มีชาวมาเลเซีย 54% ได้รับวัคซีนอย่างน้อยหนึ่งโดส ขณะที่ 36% ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว

.

ทางด้าน หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ ได้เคยโพสต์ในเฟสบุ้คถึงวัคซีนชนิดนี้ว่า วัคซีนแคนซิโน (CanSino) ของประเทศจีน ใช้เทคโนโลยีใหม่ โดยฝากอะดีโนไวรัสชนิด 5 (Adenovirus type 5) ซึ่งเป็นดีเอ็นเอไวรัสก่อให้เกิดโรคในคน เช่นไข้หวัด เจ็บคอ ตาแดง ให้เป็นพาหะนำรหัสพันธุกรรม (DNA) ของไวรัสโควิด-19 เข้าสู่ร่างกายเพื่อให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทานต่อโปรตีนส่วนที่เป็นหนามของเชื้อไวรัส
.
วัคซีนแคนซิโนให้เพียงเข็มเดียว เหมือนกับวัคซีนบริษัทจอห์นสันแอนด์จอห์นสันของสหรัฐอเมริกา และสปุตนิกของรัสเซีย ไม่ต้องให้ 2 โดสเหมือนบริษัทแอสตร้าเซเนก้า วัคซีนทั้ง 4 ชนิดนี้ใช้เทคโนโลยีเดียวกัน แตกต่างกันที่ชนิดของอะดีโนไวรัส
.
วัคซีนแคนซิโนอนุมัติใช้แล้วในประเทศจีน ปากีสถาน เม็กซิโก ชิลีและฮังการี กำลังรอการอนุมัติขึ้นทะเบียนโดยองค์การอนามัยโลกสำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉิน
ปัจจุบันบริษัท CanSino กำลังพัฒนาวัคซีนรุ่นใหม่ให้ครอบคลุมเชื้อกลายพันธุ์ สายพันธุ์แอฟริกาใต้ซึ่งหลบหลีกวัคซีนรุ่นปัจจุบันมากที่สุด
.
ทั้งนี้สามารถฉีดได้กับผู้ที่มีอายุ 18 ขึ้นไป จากข้อมูลทดลองเฟส 3 ผู้ที่ได้รับวัคซีนจำนวน 4,000 คนในประเทศปากีสถาน เม็กซิโก รัสเซีย ชิลี และอาร์เจนตินา พบว่าตัวเลขประสิทธิภาพการป้องกันโควิด-19 ของวัคซีนในวันที่ 25 ก.พ. 63 ว่า สามารถเพิ่มป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ได้ 68.84% หลังฉีดไป 14 วัน และลดลงเหลือ 65.28% หลังฉีดไป 28 วัน แต่สามารถป้องกันอาการติดเชื้อขั้นรุนแรงและอาการหนักจากโควิด-19 ได้มากถึง 95.47% หลังจากฉีดไปได้ 14 วัน และ 90.07% หลังจากฉีดไปได้ 28 วันตามลำดับ