มาเลเหนือเมฆ! นายกฯมาเลเซียทุ่มงบเยียวยากว่า 1.5 ล้านล้านบาท เหตุปิดล็อกประเทศกระทบประชาชน

419
0
Share:

นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย นายมุฮ์ยิดดิน ยัซซิน แถลงผ่านโทรทัศน์ทั่วประเทศว่า รัฐบาลมาเลเซียจัดงบประมาณเยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจมาเลเซียมูลค่า 150,000 ล้านเหรียญริงกิต หรือราว 1.15 ล้านล้านบาท เพื่อเป้าหมายในการเยียวยาธุรกิจ และประชาชนชาวมาเลเซียที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการปิดล็อกประเทศอย่างต่อเนื่อง

นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กล่าวว่า ส่วนตัวคาดหวังว่าเงินแพคเกจงบประมาณชุดนี้ จะสามรถช่วยประชาชนให้ดำเนินชีวิตต่อไปได้ในหลายเดือนข้างหน้านี้ นายกรัฐมนตรีตระหนักเป็นอย่างดีว่าทุกคนได้รับผลกระทบอย่างเลวร้าย ซึ่งเป็นผลจากการที่รัฐบาลมาเลเซียต้องต่อสู้กับสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 มาเป็นเวลานานกว่า 1 ปีผ่านมา

.

ทั้งๆที่ประชาชนชาวมาเลเซียนับหลายล้านคนได้รับความช่วยเหลือการเงินจากรัฐบาลเมื่อเดือนมีนาคมปี 2563 เป็นต้นมา แต่นายกรัฐมนตรีเข้าใจดีว่าความช่วยเหลือดังกล่าวต้องได้รับอย่างต่อเนื่องตราบใดก็ตามที่โรคระบาดโควิด-19 ยังคงมีอยู่

สำหรับเงินทั้งหมด 150,000 ล้านเหรียญริงกิต จะประกอบด้วย 4,600 ล้านเหรียญริงกิต จะนำไปสำรองโครงการความช่วยเหลือพิเศษโรคระบาดโควิด-19 เพื่อช่วยเหลือประชาชนราว 11 ล้านคน โดยเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มประชาชนที่ยังไม่ได้แต่งงาน นอกจากนี้ จัดงบ 500 ล้านเหรียญริงกิต หรือ 3,750 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่สูญเสียรายได้จากวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 โดยจะมีประชาชนที่เข้าเกณฑ์ได้รับเงินในส่วนนี้ 1 ล้านคน แต่ละคนจะได้รับเงินมูลค่า 500 เหรียญริงกิต หรือได้เงินคนละ 3,750 บาท

.

สำหรับในช่วงที่ผ่านมาก่อนถึงการประกาศผ่านทางโทรทัศน์ในวันนี้ รัฐบาลมาเลเซียได้ออกมาตรการแพคเกจกระตุ้นเศรษฐกิจมาถึง 7 ครั้ง รวมมูลค่า 380,000 ล้านเหรียญริงกิต หรือกว่า 2.93 ล้านล้านบาท

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีมาเลเซียกล่าวว่า อาจจะต่ออายุมาตรการปิดล็อกประเทศในระยะที่ 1 ออกไปจากวันที่ 28 มิถุนายนนี้ สาเหตุจากได้กำหนดไว้ว่าจะไม่ผ่อนคลายมาตรการใดๆจนกว่าจะลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันลงมาให้ต่ำกว่า 4,000 ราย

.

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขมาเลเซีย รายงานว่า ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาถึงวันนี้ 28 มิถุนายน 2564 พบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 5,218 ราย ส่งผลต่อยอดติดเชื้อสะสมเป็น 739,266 ราย อยู่อันดับที่ 36 ของโลก และอันดับ 3 ในอาเซียน ขณะที่พบผู้เสียชีวิตรายใหม่เพิ่มขึ้น 57 ราย ทำให้ยอดเสียชีวิตสะสมเป็น 5,001 ราย ทำสถิติเป็นครั้งแรกที่มีผู้เสียชีวิตสะสมแตะ 5,000 ราย