มีแววเลื่อนลงนามเฟสแรกสหรัฐ-จีน

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สหรัฐและจีนอาจไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรกภายในสิ้นปีนี้
.
โดยรอยเตอร์รายงานโดยอ้างผู้เชี่ยวชาญด้านการค้า และบุคคลใกล้ชิดกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า การบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรกอาจมีการเลื่อนออกไปเป็นปีหน้า ขณะที่จีนต้องการให้สหรัฐยกเลิกภาษีมากขึ้น
.
นอกจากนี้หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานโดยอ้างอดีตเจ้าหน้าที่ในรัฐบาลของทรัมป์ระบุว่า การเจรจาการค้าในขณะนี้กำลังเผชิญภาวะชะงักงัน ขณะเดียวกันการที่วุฒิสภาสหรัฐผ่านร่างกฎหมายสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยในฮ่องกง ก็ได้ทำให้จีนกล่าวหาสหรัฐว่าแทรกแซงกิจการภายใน และส่งผลกระทบต่อบรรยากาศในการเจรจาการค้า
.
ด้านนายแกรี่ โคห์น อดีตหัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า เชื่อว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะเดินหน้าเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนในวันที่ 15 ธ.ค. หากสหรัฐและจีนยังคงไม่สามารถทำข้อตกลงการค้า
.
ความเห็นของนายโคห์นสอดคล้องกับนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ ซึ่งคาดว่าทรัมป์จะเรียกเก็บภาษีสินค้าจีนในกลางเดือนหน้า หากทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลง
.
นอกจากนี้ นายโคห์น ยังเชื่อว่าสงครามการค้ากำลังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐ และเขาเรียกร้องให้ทรัมป์ลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกเพื่อช่วยเหลือภาคเกษตรของสหรัฐ ซึ่งถูกกระทบจากการที่จีนใช้มาตรการภาษีตอบโต้สหรัฐ
.
ขณะที่สำนักข่าวซีเอ็นบีซี รายงานว่า เจ้าหน้าที่จีนไม่มีความเชื่อมั่นต่อการเจรจาการค้ากับสหรัฐ เนื่องจากทรัมป์ปฏิเสธที่จะยกเลิกการปรับเพิ่มภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีน
.
โดยจีนปฏิเสธเงื่อนไขของสหรัฐที่ต้องการให้จีนยุติการบังคับถ่ายโอนเทคโนโลยี และจีนยังเรียกร้องให้สหรัฐระงับการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน ก่อนที่จะมีการทำข้อตกลงการค้าเฟสแรก