มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคเตือนรมว.เกษตรฯ อย่ากลับคำแบน 3 สารเคมี

590
0
Share:

น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวถึงกรณีหลังนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รับหนังสือขอให้ยกเลิกการแบนสารเคมีทางการเกษตร รู้สึกสะเทือนใจที่นายเฉลิมชัย ตัดสินใจเลือกข้างบริษัทสารเคมีและจะเดินหน้าทบทวนการยกเลิกพาราควอต ของคณะกรรมการการวัตถุอันตราย
.
จึงอยากให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ คิดทบทวนให้ดีที่ออกมาหนุนการยกเลิกการแบนสารพิษ เพราะที่ผ่านมานโยบายพรรคประชาธิปัตย์และกระทรวงพาณิชย์ที่พรรคดูแลอยู่ก็เน้นนโยบายเกษตรอินทรีย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงหาเสียง ทีมเศรษฐกิจของพรรคชูนโยบายแบน 3 สารพิษ ยังอยากเห็นพรรคประชาธิปัตย์มีที่ยืนในสังคมไทย ไม่ใช่ผิดคำพูดตลอดกาล
.
ทั้งนี้ มูลนิธิฯ จะรณรงค์และประสานงานองค์กรผู้บริโภคทุกภูมิภาคให้เดินหน้าการยกเลิกสารเคมีอันตรายทั้งสามตัวให้ได้ โดยจะร่วมมือกับเครือข่ายองค์กรผู้บริโภคภาคเหนือ เก็บตัวอย่างน้ำปู๋มาทดสอบ การตกค้างของพาราควอตในกบหนอง ปูนา หอยกาบน้ำจืด และปลากะมัง ได้รับการยืนยันโดยข้อมูลของ ผศ.ดร.นพดล กิตนะ ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่พบพาราควอตตกค้างในตัวอย่างปูนาระหว่าง 24- 56 ไมโครกรัมต่อกิโลกรัม พบในกบหนอง 17.6 – 1,233.8 ไมโครกรัมต่อกิโลกรัม พบในปลากะมัง 6.1-12.5 ไมโครกรัมต่อกิโลกรัม และพบในหอยกาบน้ำจืด 3.5-7.7 ไมโครกรัมต่อกิโลกรัม
.
สำหรับน้ำปู๋ซึ่งนิยมนำมาประกอบอาหาร เช่น น้ำพริกน้ำปู แกงหน่อไม้ ตำส้มโอ ตำกระท้อน พบว่าบางชนิดมีพาราควอต สูงถึง 200 เท่าจากมาตรฐานที่องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) กำหนดไว้ไม่เกิน 5 ไมโครกรัมต่อกิโลกรัม
.
ส่วนการที่มีผู้นำข้อมูลของ “ฉลาดซื้อ” ไปอ้างว่าไม่พบพาราควอตในปูนานั้น ขอยืนยันว่าศูนย์ทดสอบฉลาดซื้อไม่เคยทดสอบปูนาหรือน้ำปู๋ ที่ผ่านมาเป็นการสุ่มตัวอย่างปูดองเค็ม (ที่ใช้ในการทำส้มตำ) จำนวน 16 ตัวอย่าง จากตลาดสด 14 แห่ง ระหว่างวันที่ 19-20 ธันวาคม 2561 ในพื้นกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ไม่ใช่การทดสอบน้ำปู๋หรือปูนาจากพื้นที่ภาคเหนือแต่อย่างใด