ม.หอการค้าไทยชี้เศรษฐกิจไทยไตรมาส 4 ฟื้นแล้ว จากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ท่องเที่ยวกลับ

287
0
Share:
ม. หอการค้าไทย ชี้ เศรษฐกิจไทย ไตรมาส 4 ฟื้นแล้ว จากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ท่องเที่ยวกลับ

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้เศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาสที่ 4 ฟื้นตัวแล้ว จากปัจจัยเสี่ยงที่คลี่คลายไปทั้งสถานการณ์โควิด-19 ประชาชนเริ่มคลายกังวลเป็นสถานการณ์ที่เริ่มควบคุมได้ รวมทั้งให้โควิดเป็นโรคประจำถิ่น อีกทั้งไทยมีการเปิดประเทศ ส่งเสริมการท่องเที่ยว ส่งผลให้การจับจ่ายใช้สอยเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ เริ่มเดินทางท่องเที่ยว และราคาน้ำมันที่เริ่มทรงตัวแม้จะอยู่ในระดับสูง เคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 90-100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งไม่ได้เป็นปัจจัยเสี่ยงที่รุนแรง ส่วนราคาดีเซลรัฐบาลยังคงตรึงราคาไว้ 35 บาทต่อดอลลาร์ เพื่อช่วยในเรื่องของโลจิสติกส์ และการผลิต ทำให้ประชาชนสามารถรับได้

สำหรับเงินค่าบาทที่อ่อนค่าแตะ 38 บาทต่อดอลลาร์ไม่ได้เส่งผลให้ระบบเศรษฐกิจเสียหายมาก และไม่กระทบต่อเงินเฟ้อให้รุนแรง ในทางกลับกันส่งผลดีต่อการส่งออก ที่ปีนี้คาดว่าการส่งออกไทยจะขยายตัว 7- 8 % ซึ่งจะเป็นตัวช่วยเศรษฐกิจของไทยที่สำคัญ อีกทั้งยังหนุนให้ชาวต่างชาติมาเที่ยวไทยมากขึ้น โดยนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาจำนวนมาก ประกอบกับการเป็นเจ้าภาพเอเปคก็จะมีผู้เข้าร่วมประชุม สื่อมวลชน เดินทางมามากเช่นกัน ทำให้ช่วยเป็นแรงผลักดันภาพลักษณ์ของประเทศทำให้คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวเมืองไทยเดือนละ 1- 2 ล้านคน ซึ่งจะหนุนำให้ทั้งปีมีนักท่องเที่ยวจำนวน 10 ล้านคน

ทั้งนี้มหาวิทยาลัยหอการค้าคาดว่า ช่วงจากนี้ไปจนถึงเทศกาลปีใหม่จะคึกคักและดีขึ้นจากการจับจ่ายใช้สอยและการท่องเที่ยว แม้ว่าภาคประชาชน ภาคธุรกิจ ยังมีความกังวลในสถานการณ์เศรษฐกิจในปีหน้าที่เข้าสู่ภาวะถดถอย จากการขึ้นอัตราดอกเบี้ย เงินเฟ้อสูง จึงมองว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นในไตรมาส 2 อย่างไรก็ตามยังประเมินว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวในกรอบ 3.3 -3.5 % และปี 66 มองว่า เศรษฐกิจไทยจะเติบโตกว่า 3.5-4 %

ส่วนสถานการณ์เศรษฐกิจโลกปีหน้าที่มองว่าเศรษฐกิจถดถอย น่าจะเห็นชัดได้ในช่วงไตรมาส 1 แม้จะมีความกังวลที่สหรัฐขึ้นอัตราดอกเบี้ยแต่ระบบเศรษฐกิจของสหรัฐไม่ได้ท่าทีที่จะทรุดตัวเพราะอัตราว่างงานไม่มาก ยอดการใช้จ่ายซื้อบ้านซื้อรถก็ยังดี จึงมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในช่วงซอฟแลนด์ดิ้ง ขณะที่เศรษฐกิจจีนก็เริ่มผ่อนคลายมาตรการซีโร่โควิด เศรษฐกิจจีนน่าจะโตปีนี้ 3.5 % และปีหน้าน่าจะขยายตัว 4.5 % จากการขับเคลื่อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั้งการท่องเที่ยว การส่งออก ซึ่งก็จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในอาเซียนและไทยด้วย