ม.หอการค้า เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน พ.ย. 65 ฟื้นตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6

234
0
Share:
หอการค้า เผย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน พ.ย. 65 ฟื้นตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ และอธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือนพฤศจิกายน 2565 พบว่า ปรับตัวดีขึ้นจากระดับ 46.1 เป็น 47.9 สูงขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 สูงสุดในรอบ 20 เดือนนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2564 เป็นต้นมา

เนื่องมาจากประชาชนเริ่มคลายกังวลสถานการณ์โควิดในประเทศ หลังจากมีการผ่อนคลายกฎระเบียบต่างๆ ทำให้ธุรกิจกลับมาเปิดได้ตามปกติ ตลอดจนการผ่อนปรนมาตรการการเดินทางให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ เดินทางเข้าประเทศได้สะดวกมากขึ้น ส่งผลให้เกิด เม็ดเงินหมุนเวียน ในประเทศ และ กิจกรรมทางเศรษฐกิจ เกิดการจับจ่ายใช้สอยอย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคยังคงมีความกังวล เกี่ยวกับค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซีย และ ยูเครน ที่ยังยืดเยื้อ ตลอดจนการปรับขึ้น อัตราดอกเบี้ย เพื่อแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อของประเทศต่างๆ ทั่วโลก ที่อาจเป็นปัจจัยกดดันของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และเสี่ยงเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย

“ผู้บริโภคเริ่มมีความเชื่อมั่นมากขึ้น เพราะดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องกัน 6 เดือน และเดือนพ.ย.นี้ยังสูงสุดในรอบ 20 เดือน ซึ่งดีขึ้นมาอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดโควิด และน่าจะค่อยๆ ดีขึ้นต่อเนื่องอีกในเดือน ธ.ค. และ ม.ค. ซึ่งเป็นผลมาจากการท่องเที่ยวมีทิศทางที่ดีขึ้น จากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามามากขึ้น ทำให้มีรายได้เข้าประเทศ นอกจากนี้ สินค้าเกษตรหลายรายการมีราคาดี มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐที่ยังคงมีอยู่ รวมทั้งราคาน้ำมันไม่กดดันมาก ทำให้ประชาชนพร้อมจับจ่ายใช้สอย พร้อมออกไปท่องเที่ยว โดยภาพรวมเศรษฐกิจปกคลุมในเชิงบวก

ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางานทำโดยรวม และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ระดับ 42.0 45.2 และ 56.4 ตามลำดับ ปรับตัวดีขึ้นทุกรายการเมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา แสดงว่าผู้บริโภคเริ่มมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัว แต่ดัชนียังอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติ (ที่ระดับ 100) สะท้อนได้ว่าผู้บริโภคยังไม่มีความมั่นใจเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ โอกาสในการหางานทำ และรายได้ในอนาคต