ยอดจดทะเบียนรถอีวีในไทยกระฉูดกว่า 700% มาพร้อมแนวโน้มรถไฟฟ้าแบรนด์จีนส่อเป็นหนี้เสีย

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. กล่าวว่า ตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือรถบีอีวีเติบโตอย่างคึกคักต่อเนื่อง พบว่า รถยนต์นั่งที่เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าจดทะเบียนใหม่เดือนตุลาคมนี้มีจำนวน 7,628 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 527.30% ส่งผลให้รวม 10 เดือนแรกปีนี้ ยอดจดทะเบียนรถบีอีวี อยู่ที่ 57,628 คัน เพิ่มสูงอย่างก้าวกระโดดถึง 717.88% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2022

ด้านนายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) กล่าวว่า สถานการณ์ภาวะหนี้เสีย หรือเอ็นพีแอล (NPL) ในกลุ่มที่ถูกประเมินอย่างใกล้ชิดว่าจะเกิดปัญหาหนี้เสียในอนาคตคือ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือรถอีวีแบรนด์จีน ในปัจจุบันพบว่า ยอดขายรถบีอีวีมีขยายตัวอย่างก้าวกระโดด การทำตลาดเชิงรุกอย่างรุนแรงเพื่อสร้างส่วนแบ่งตลาดของแต่ละแบรนด์ ที่สำคัญ กรณีมีปัญหา หรือเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับรถบีอีวี จะทำให้อัตราสินเชื่อต่อมูลค่าของรถบึอีวีจะลดลงมาก สถาบันการเงินที่ปล่อยกู้ให้กับเจ้าของรถบีอีวีไม่เพียงรับความเสี่ยงสูงมากขึ้น แต่ยังมีความเสี่ยงการปล่อยเงินกู้กับประเภทรถบีอีวีมากกว่ารถยนต์ประเภทเครื่องสันดาปอื่นๆ

ท่ามกลางสถาบันการเงินในประเทศไทยมีความเข้มงวดมากขึ้นในการปล่อยสินเชื่อซื้อรถยนต์ ซึ่งเป็นผลพวงมาจากตัวเลขหนี้เสียรถยนต์ที่เพิ่มสูงขึ้น ดังนั้น จึงเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้ค่ายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบรนด์จีนหลายราย ได้เข้ามาสอบถามข้อมูลการเป็นสมาชิกกับเครดิตบูโร แต่ก็ยังไม่ได้ตัดสินใจเข้ามาเป็นสมาชิก ความเคลื่อนไหวเหล่านี้ คือการเตรียมความพร้อมที่บริษัทผลิตรถบีอีวีแบรนด์จีนจะเปิดธุรกิจปล่อยสินเชื่อรถบีอีวีกับลูกค้า โดยมีแหล่งเงินของแต่ละค่ายของตนเอง