ยอดติดโควิด-19 เกินกว่า 7,100 คนในเกาหลีใต้มากเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาดแห่งชาติเกาหลีใต้ หรือ KCDC เปิดเผยว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอไมครอนรายวันอีก 2 ราย ส่งผลจำนวนติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนสะสมเป็น 38 ราย

นอกจากนี้ มีความกังวลว่าจะเกิดการระบาดของสายพันธุ์โอไมครอนแบบคลัสเตอร์ครั้งแรกในประเทศเกาหลีใต้ เนื่องจากกำลังผลการตรวจหาเชื้อจากผู้ที่เข้าร่วมพิธีกรรมทางศาสนาในโบถส์แห่งหนึ่งที่เมืองอินชอนที่มีจำนวนมากถึง 400 คน เนื่องจากมีสมาชิกของครอบครัวหนึ่งที่ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนเข้าร่วมงานในโบถส์แห่งนี้

วันนี้ 8 ธันวาคม 2664 ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาดแห่งชาติเกาหลีใต้ หรือ KCDC รายงานสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 รอบที่ 4 ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาถึงช่วงเช้าวันนี้ 8 ธันวาคม 2564 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งขึ้น 7,175 ราย ไม่เพียงทำสถิติยอดติดเชื้อรายวันมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ หรือตั้งแต่เกิดการระบาดในเกาหลีใต้เป็นต้นมา แต่ยังเป็นครั้งแรกที่มีสถิติติดเชื้อรายวันแตะหลัก 7,000 ราย นอกจากนี้ จำนวนติดเชื้อรายใหม่พุ่งขึ้นถึง 2,211 รายเมื่อเทียบกับ 1 วันก่อนหน้านี้ ทำสถิติส่วนต่างจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมากเป็นประวัติการณ์ หรือนับตั้งแต่เกิดการระบาดในเกาหลีใต้เป็นต้นมา ทำให้ยอดติดสะสมเพิ่มเป็น 489,584 ราย และอยู่อันดับที่ 65 ของโลก โดยสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เดิมอยู่ที่ 5,352 ราย เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2564 ข้อมูลถึงเมื่อเมื่อวานนี้ 7 ธันวาคม 2564 พบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันเฉลี่ยในรอบ 7 วันติดต่อกันพุ่งขึ้นมาเป็น 5,012 ราย

สำหรับยอดติดเชื้อรายใหม่ 7,175 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศทั้งหมด หรือ 100% ของจำนวนติดเชื้อในภาพรวมทั้งหมด ในส่วนของผู้เสียชีวิตรายวันนั้น พบผู้เสียชีวิตรายใหม่เพิ่ม 63 ราย นับเป็นสถิติเสียชีวิตรายวันอันดับที่ 3 รองจากสถิติที่ 64 เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม และ 70 รายที่เป็นนิวไฮเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2564 ส่งผลยอดเสียชีวิตสะสมเป็น 4,020 ราย นับเป็นครั้งแรกที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมทะลุ 4,000 ราย อัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้วมาอยู่ที่ 0.82%

สิ่งสำคัญ คือยอดผู้ป่วยโรคระบาดโควิด-19 อาการรุนแรงขั้นโคม่าพุ่งขึ้นเป็น 840 ราย ทำสถิติมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ หรือตั้งแต่เกิดการระบาดในเกาหลีใต้เป็นต้นมา

สำหรับพื้นที่ที่พบการระบาดมากที่สุดในประเทศเกาหลีใต้ ได้แก่ กรุงโซล พบว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งถึง 2,901 ราย หรือสูงถึง 40% ของจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันนี้ นอกจากนี้หากรวมพื้นที่รอบนอกที่ใกล้เคียงกรุงโซล จะพบว่ากลายเป็นพื้นที่ที่พบการระบาดมากที่สุดของประเทศเป็นจำนวน 5,602 ราย หรือ 78%

สาเหตุเกิดจากในขณะนี้ตรวจพบว่าภูมิคุ้มกันในร่างกายของประชาชนวัยผู้ใหญ่ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสมาก่อนหน้านี้เริ่มลดลง และกลุ่มเด็ก-วัยรุ่นที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่หนึ่ง นอกจากนี้ การแพร่ระบาดของเชื้อสายพันธุ์เดลต้า หรืออินเดียเป็นสายพันธุ์หลักในเกาหลีใต้ รวมถึงนโยบายรัฐบาลเกาหลีใต้ที่ต้องการให้ประชาชนอยู่ร่วมกับโรคระบาดโควิด-19 ด้วยการผ่อนคลายมาตรการและข้อจำกัดหลายอย่างนับตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนเป็นต้นมา

ทั้งนี้ ข้อมูลถึงวันที่ 7 ธันวาคม 2564 พบว่าประชาชนชาวเกาหลีใต้ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 อย่างน้อย 1 เข็ม มีจำนวน 52 ล้านคน หรือ 83.3% ของประชากรทั้งประเทศ ขณะที่ ได้รับการฉีดครบทั้ง 2 เข็ม มีจำนวนกว่า 41.28 ล้านคน คิดเป็น 80.7% ของประชากรทั้งประเทศ และฉีดเข็มสามหรือเข็มบูสเตอร์อยู่ที่ 8.8% เกาหลีใต้ใช้วัคซีนทั้งหมด 4 ยี่ห้อ ได้แก่ แอสตร้าเซเนก้า ไฟเซอร์ โมเดอร์นา และจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน