ยักษ์ธนาคารสหรัฐชี้ ไทย-ญี่ปุ่นอ่อนแอที่สุดในเอเชีย ดุลบัญชีเดินสะพัดพ่วงทุนสำรองสูง

333
0
Share:
ยักษ์ธนาคารสหรัฐชี้ ไทย- ญี่ปุ่น อ่อนแอที่สุดในเอเชีย ดุลบัญชีเดินสะพัดพ่วง ทุนสำรอง สูง

นายอเล็กซานเดอร์ วูล์ฟ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนภูมิภาคเอเชีย ของธนาคารเจพี มอร์แกน อินเวสต์เมนท์ แบงก์ ในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นธนาคารชื่อดังระดับโลกที่มีสำนักงานใหญ่ในสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ประเทศในเอเชีย ส่วนใหญ่ที่มีดุลบัญชีเดินสะพัดที่แข็งแรง และมีปริมาณเงินทุนสำรองระหว่างประเทศสูงอันดับต้นๆของโลกนั้น แม้จะสามารถหลีกเลี่ยงผลกระทบจากความปั่นป่วนของตลาดโลกได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม เมื่อมองจากความแข็งแรงของดุลบัญชีเดินสะพัดและเงินสำรองระหว่างประเทศ พบว่าไทยและญี่ปุ่นยังคงเป็นจุดที่อ่อนของเอเชีย รองลงไปคือจีน เกาหลีใต้ อินเดีย

แม้จะเริ่มมีสัญญาณเชิงลบโดยทุนสำรองระหว่างประเทศเริ่มจะลดลง แต่หลายประเทศก็ยังคงประคองตัวอยู่ในสถานะที่ดีกว่าเดิม เมื่อเทียบกับช่วงสิ้นปี 2019 ซึ่งเป็นช่วงที่เริ่มมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นวงกว้างมากขึ้น ปัจจุบันนี้ ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของประเทศในกลุ่มเศรษฐกิจเกิดใหม่ของเอเชียมีมูลค่ารวมกันราว 2.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่เคยขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่ 2.8 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนตุลาคม 2021

หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนภูมิภาคเอเชีย ของธนาคารเจพี มอร์แกน อินเวสต์เมนท์ แบงก์ กล่าวว่า ภายในปีที่ผ่านมา ความสามารถในการป้องกันปัจจัยลบจากภายนอกที่สั่งสมไว้เริ่มร่อยหรอลงมาก ขณะที่หนี้ภาครัฐและหนี้ครัวเรือนก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีการใช้จ่ายงบประมาณมากขึ้น

นอกจากนี้ การนำเข้าสินค้าโภคภัณฑ์เพิ่มขึ้นยังมีผลต่อยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดที่เคยทำไว้ได้มาก ขณะที่อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ระบุไว้นำมาหักด้วยอัตราเงินเฟ้อก็อยู่ในอัตราติดลบ สภาวะเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ของเอเชียมีภาวะปัจจัยที่จะป้องกันตัวเองจากผลกระทบของเงินทุนไหลออกลดน้อยลง

อย่างไรก็ตาม เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นภูมิภาคที่จัดได้ว่ามีความยืดหยุ่นและสามารถปรับตัวรับผลกระทบดังกล่าวได้ดีเป็นพิเศษเมื่อพิจารณาในแง่เศรษฐกิจมหภาค โดยจะเห็นได้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อในภาคอุตสาหกรรม (PMI) มีสัญญาณการขยายตัวทั่วทั้งภูมิภาค ซึ่งแตกต่างจากสถานการณ์ในเกาหลีใต้และไต้หวัน

ทั้งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเอเชียเหนือ ซึ่งยังมีความขัดแย้งกันอยู่ เช่น ญี่ปุ่น และจีนนั้น ธนาคารเจพี มอร์แกน เปิดเผยว่า คู่นี้อาจเป็นจุดอ่อนแอที่สุดของภูมิภาคเอเชีย ทั้งนี้ หากประเมินความเปราะบางโดยพิจารณาจากดุลบัญชีเดินสะพัด สำรองเงินตราต่างประเทศ และยีลด์บัฟเฟอร์ กลับพบว่า ประเทศไทยและญี่ปุ่นเป็นจุดที่อ่อนแอมากที่สุด ตามมาด้วยจีน เกาหลีใต้ และอินเดีย เป็นกลุ่มอ่อนแอรองลงมา