ยังกู้อีก! ครม.ไฟเขียวแผนเงินกู้ยืมกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง 1.5 แสนล้าน

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าการดำเนินการตามหลักเกณฑ์การกู้ยืมเงินของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) โดยเมื่อเดือนกันยายน 2565 ครม.ได้มีการอนุมัติให้อำนาจกระทรวงการคลังค้ำประกันการชำระหนี้ของ สกนช.ว่า ในวันนี้ ครม.ได้เห็นชอบรายละเอียดแผนการกู้เงินดังกล่าว ซึ่งเป็นแผนที่ สกนช.จะดำเนินการใน 2 ส่วน ได้แก่

1. การกู้ยืมวงเงิน 30,000 ล้านบาท จะเป็นการกู้ยืมในครั้งที่ 1 และ 3 จะทยอยดำเนินการตั้งแต่ธันวาคม 2565 – กุมภาพันธ์ 2566
2. การกู้ยืมวงเงิน 120,000 ล้านบาท จะทยอยดำเนินการตั้งแต่กุมภาพันธ์-กรกฎาคม 2566

ล่าสุด สถานะของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 16 ตุลาคม 2565 ติดลบอยู่ที่ 125,690 ล้านบาท เนื่องจากเหตุการณ์ในปัจจุบันถือว่ายังคงมีวิกฤติด้านน้ำมันเชื้อเพลิงจากสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยังคงมีความยืดเยื้อและส่งผลกระทบที่อาจรุนแรงได้เพิ่มเติม ทั้งในช่วงจากนี้ไป ไม่ว่าจะเป็นเดือนพฤศจิกายน 2565 – กุมภาพันธ์ 2566 ซึ่งเป็นช่วงเข้าฤดูหนาว อาจส่งผลให้ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงตลาดโลกยังคงอยู่ในระดับสูงและมีความผันผวน และจะส่งผลต่อราคาสินค้าบริโภคอุปโภค ประกอบกับประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และปัญหาอุทกภัยในปัจจุบัน ซึ่งยังส่งผลให้กองทุนในปัจจุบันจึงมีรายจ่ายสูงกว่ารายรับอยู่ โดยเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2565 มีรายจ่ายสุทธิ 222 ล้านบาทต่อวัน หรือ 6,882 ล้านบาทต่อเดือน แต่รัฐบาลยังคิดว่ามีความจำเป็นในการลดภาระของประชาชนและให้ความช่วยเหลือเพื่อให้กระทบในเรื่องของราคาสินค้าต่างๆ รวมถึงเงินเฟ้อ