ยังโตแผ่ว!ไตรมาสแรกปี 67 เศรษฐกิจโตแผ่วตลาดอสังหาฯยังซบเซา ฉุดโครงการเปิดใหม่ ก.พ.วูบ 20%

108
0
Share:

นายโสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด(AREA) เปิดเผยว่า ไตรมาสแรกปี 2567 ตลาดยังซบเซาอยู่ เพราะช่วงหลังปี 2566 มีเปิดตัวใหม่เป็นจำนวนมาก ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะรายได้ของประชาชนยังจำกัดเศรษฐกิจโดยรวมยังไม่ดี  แต่หวังปี 2567  ตลาดอสังหาฯ  คงเติบโตได้อีกมาก โดยในครึ่งหลังนี้ การเปิดตัวโครงการใหม่จะกลับมามากขึ้น คาดว่าจำนวนหน่วยขายและมูลค่าการเปิดขายโครงการยังจะมีมากกว่าปี 2566

จากผลสำรวจภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 เปิดตัวโครงการใหม่ 19 โครงการ เท่ากับเดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่มีขนาดโครงการเล็กลง จึงทำให้จำนวนหน่วยขายและมูลค่าโครงการลดลงด้วย โดยเปิดตัวใหม่ 3,009 หน่วย ลดลง20% มูลค่ารวม 18,248 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย เมื่อเทียบเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยบ้านเดี่ยวเปิดมากสุด37.3% รองลงมาคอนโดมิเนียม 36.1% และทาวน์เฮาส์ 19.4%

การพัฒนาที่อยู่อาศัยจะแตกต่างกับเดือนมกราคม คือ คอนโดมิเนียมที่เข้าสู่ตลาดเป็นราคาปานกลาง 3-5 ล้านบาท ส่วนบ้านเดี่ยวราคา 10-20 ล้านบาท ทาวน์เฮ้าส์ราคา 2-3 ล้านบาท ทำให้ภาพรวมโครงการที่เปิดขายใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์มีจำนวนโครงการ หน่วยขาย และมูลค่าโครงการลดลง เพราะเป็นการพัฒนาโครงการขนาดเล็กถึงปานกลาง แต่เป็นสินค้าระดับกลางถึงสูง ทำให้มีราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยเพิ่มขึ้น 18.5% เฉลี่ยอยู่ที่ 6.065 ล้านบาท สูงกว่าปกติที่ 4 ล้านบาท สะท้อนว่าแนวโน้มการพัฒนาที่อยู่อาศัยกลุ่มปานกลางค่อนข้างสูงขึ้นไป ไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ

ส่วนทำเลจะอยู่ในย่านไพร์มแอเรีย เช่น ถนนบรมราชนนี พุทธมณฑล สาย 1 ถนนชัยพฤกษ์ ถนนกาญจนาภิเษก จึงเป็นโอกาสในการทำการขายและการตลาดในอนาคต โดยทำเลที่มีเปิดขายใหม่ สำหรับคอนโดมิเนียมอยู่ย่านรถไฟฟ้า ส่วนแนวราบอยู่พื้นที่ส่วนต่อขยายและแหล่งงาน ขณะที่อัตราการขายได้ลดลงอยู่ที่ 9.9% จากเดือนมกราคมอยู่ที่ 15.9% ต่อเดือน โดยทาวน์เฮาส์ราคา 2-3 ล้านบาท มีอัตราขายได้สูงสุดจาก 367 หน่วย ขายได้แล้ว 85 หน่วย รองลงมาคอนโดมิเนียม ราคา 1-2 ล้านบาท จาก 84 หน่วย ขายได้แล้ว 14 หน่วย และคอนโดมิเนียมราคา 2-3 ล้านบาท จาก 234 หน่วย ขายได้แล้ว 33 หน่วย ส่วนบ้านเดี่ยวราคามากกว่า 20 ล้านบาท มี 88 หน่วย ขายได้แล้ว 11 หน่วย ถือว่ามียอดขายค่อนข้างดีอย่างต่อเนื่องเทียบกับเดือนมกราคมที่ผ่านมา

ผู้ประกอบการรายใหญ่กลับมาเปิดตัวมากกว่ารายเล็กและพัฒนาบ้านเดี่ยวราคาปานกลางถึงระดับสูง สะท้อนว่าตลาดยังเป็นของผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ โอกาสที่รายเล็กจะเปิดตัวมากมายเช่นแต่เดิมคงมีโอกาสได้ยาก

ทั้งนี้  หากเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อนหน้า จำนวนโครงการเปิดใหม่น้อยกว่า 11 โครงการ มีหน่วยขายลดลง 1,615 หน่วย หรือ 34.9% มูลค่าลดลง 6,420 ล้านบาท หรือ 26% แต่เทียบ 2 เดือนแรกปี 2567 มีเปิดใหม่รวม 38 โครงการ น้อยกว่า 2 เดือนแรกของปี 2566 จำนวน 19 โครงการ หรือลดลง 33.3% ส่วนมูลค่าโครงการรวมอยู่ที่ 41,117 ล้านบาท ลดลง 9,941 ล้านบาท หรือ 19.5% และจำนวนหน่วยขายรวม 6,769 หน่วย ลดลง 6,269 หน่วย หรือ 48.1%