ยื้อต่อสัญญาสัมปทานสายสีเขียว ค่าโดยสารพุ่ง 158 บาทตลอดสาย

2355
0
Share:

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส เปิดเผยถึงปัญหาการต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวกับกรุงเทพมหานครไปอีก 30 ปี จากปี 2572 เป็นหมดอายุ ปี 2602 เนื่องจากว่ามีข้อคิดเห็นว่า ราคาสูงสุดไม่เกิน 65 บาท เป็นราคาที่สูงเกินไปนั้น
.
ขอชี้แจงว่าราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว กับ MRT สายสีน้ำเงิน มีค่าเฉลี่ยค่าโดยสารใกล้เคียงกัน โดยสายสีเขียวมี 59 สถานี เก็บไม่เกิน 65 บาทตลอดสาย ส่วนสายสีน้ำเงินมี 38 สถานี เก็บค่าโดยสารสูงสุด 42 บาท แต่ที่ต่างกันคือภาระต้นทุน ที่แตกต่างกันมาก โดยสายสีเขียวบีทีเอสต้องรับชำระหนี้ค่างานโยธาแทนกทม. กว่า 6 หมื่นล้าน แต่สายสีน้ำเงินไม่ต้องมีต้นทุน รัฐออกค่างานโยธาให้ทั้งหมด นอกจากนี้บีทีเอสต้องแบ่งรายได้ให้ กทม. ทุกปี รวมแล้วเกิน 2 แสนล้านบาท และเมื่อรวมกับหนี้ต่างๆ รวมถึงวงเงินที่ต้องลงทุนเพิ่มเติม ทำให้ค่าต่ออายุสัมปทานสายสีเขียวเกิน 3 แสนล้านบาท
.
แต่สายสีน้ำเงินไม่ต้องแบ่งรายได้ ยกเว้นว่าผลตอบแทนลงทุนเกินกว่า 9.75% จึงจะจ่ายให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) ส่วนสายสีเขียว หากผลตอบแทนเกินกว่า 9.60% ต้องแบ่งรายได้ให้กทม. เพิ่มอีก
.
หากไม่มีการต่อสัญญาสัมปทานให้บีทีเอส และจะเปิดประมูลใหม่หรือไม่นั้น คงต้องรอให้สัมปทานหมดลงก่อนในปี 2572 แต่จากการที่ กทม. เคยประเมินความสนใจของเอกชนพบว่า ไม่มีเอกชนสนใจ แต่สาเหตุที่ต้องเร่งให้ได้ข้อสรุปเรื่องการต่ออายุสัมปทานนั้น เพราะเดือน ธ.ค.นี้ จะเปิดเดินรถเพิ่มอีก 7 สถานีจนถึงสถานีคูคต โดยจะเป็นการให้บริการสายสีเขียวครบตลอดทั้งเส้นเชื่อมการเดินทาง 3 จังหวัด กรุงเทพฯ สมุทรปราการ และปทุมธานี และถ้าไม่ต่อสัมปทานทาง กทม. จะมีภาระที่ต้องหาเงินมาจ่ายหนี้ และต้องเก็บค่าโดยสารตามระยะทางโดยราคาสูงสุดอยู่ที่ 158 บาท ซึ่งการจะเปิดเดินรถฟรีไปตลอดก็คงไม่ได้ เพราะจะยิ่งเป็นภาระแก่ กทม. ดังนั้นจึงต้องทำให้ได้ข้อสรุปโดยเร็วเพราะหากต่ออายุสัมปทานก็จะเก็บค่าโดยสารสูงสุดไม่เกิน 65 บาทตลอดสาย