ยุคตุนทอง! ธนาคารกลางทั่วโลกแห่ซื้อทองคำทะลุ 399 ตัน มากเป็นประวัติศาสตร์โลก

สภาทองคำโลก หรือ WGC เปิดเผยว่า สิ้นสุดไตรมาส 3 พบว่าความต้องการถือครองทองคำกลับมาเหมือนช่วงก่อนเกิดโรคระบาดโควิด-19 แล้ว สำหรับในภาพรวมนั้น ความต้องการทองคำทั่วโลกเพิ่มเป็น 1,181 ตัน เพิ่มขึ้นมากถึง 28% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2021 ที่มีปริมาณที่ 922 ตัน

ในเวลาเดียวกัน ธนาคารกลางทั่วโลกซื้อทองคำแท่งเพิ่มขึ้นรวมกันถึง 399 ตัน ทำสถิติปริมาณทองคำถูกซื้อโดยธนาคารกลางทั่วโลกมากเป็นประวัติศาสตร์ รวมมูลค่าราว 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 770,000 ล้านบาท เมื่อนับตั้งแต่ต้นปีนี้มาถึง 31 ตุลาคม พบว่า ธนาคารกลางทั่วโลกซื้อทองคำสะสมรวมกันถึง 673 ตัน ทำสถิติธนาคารกลางทั่วโลกซื้อทองคำมากกว่าการซื้อภายใน 1 ปี สูงที่สุดในรอบ 55 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 1967 เป็นต้นมา

สภาทองคำโลก เปิดเผยต่อไปว่า ธนาคารกลางที่ซื้อทองคำโลกมากที่สุด ได้แก่ ตุรกี อุสเบกิสถาน กาตาร์ และอินเดีย โดยเฉพาะธนาคารกลางตุรกีซื้อทองคำแท่ง และเหรียญทองคำ เพิ่มสูงถึง 48.6 ตันในไตรมาสที่ 3 ส่งผลซื้อเพิ่มมากถึงกว่า 300% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีผ่านมา

นอกจากนี้ ความต้องการซื้อทองคำที่มาจากธุรกิจจิวเวลรี่ และประชาชนทั่วไปก็เพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ 3 ปีนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม กองทุนทองคำหรือโกลด์อีทีเอฟ กลับลดลงอย่างต่อเนื่อง สาเหตุจากสถานการณ์ดอกเบี้ยระยะสั้นเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผลตอบแทนจากการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทอื่นดีกว่าเมื่อเปรียบเทียบเทียบกับกองทุนทองคำ หรือโกลด์อีทีเอฟ

ในไตรมาสที่ 3 การที่นักลงทุนทั้งประเภทสถาบันและนักลงทุนทั่วไปขายกองทุนทองคำออกสู่ตลาดต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อราคาทองคำลดลง 8% ซึ่งในทางกลับกัน ราคาทองคำที่ตกต่ำดังกล่าวช่วยให้เกิดความต้องการในธุรกิจจิวเวลรี่

ทั้งนี้ สภาทองคำโลกคาดการณ์ว่า ความต้องการซื้อทองคำของธนาคารกลางทั่วโลกในช่วงไตรมาสที่ 4 ปีนี้ จะยังคงมีต่อไป โดยเฉพาะในเอเชียนำโดยอินเดีย และอาเซียน