ยูเคติดโควิดรายใหม่กว่า 78,000 มากเป็นประวัติการณ์ ติดโอไมครอนมากที่สุดในโลก

355
0
Share:
ระบบบริการสาธารณสุข สหราชอาณาจักร หรือ NHS เปิดเผยว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงผ่านมาถึงเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2564 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 78,610 ราย ทำสถิติยอดติดเชื้อรายวันมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ หรือนับตั้งแต่เกิดโรคระบาดโควิด-19 ในยูเคเป็นต้นมา รวมยอดติดเชื้อสะสมเป็น 11,010,286 ราย ทำสถิติเป็นครั้งแรกที่สหราชอาณาจักรติดเชื้อสะสมแตะ 11 ล้านราย อยู่อันดับที่ 4 ของโลก และเป็นอันดับ 1 ของยุโรป สำหรับสถิติติดรายวันมากเป็นประวัติการณ์เดิมเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2564 มีจำนวน 68,053 ราย ขณะที่ผู้เสียชีวิตรายใหม่มี 165 ราย ทำยอดเสียชีวิตสะสมเป็น 146,791 ราย
ศาสตราจารย์คริส วิตตี้ หัวหน้าคณะแพทย์ และที่ปรึกษาคณะปฏิบัติการโรคระบาดโควิด-19 รัฐบาลสหราชอาณาจักร กล่าวว่า สถิติติดเชื้อรายวันมากเป็นประวัติการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งใหม่นี้จะถูกทำลายอีกในช่วง 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า โดยส่วนตัวมีความกังวลอย่างมากที่จะเห็นอัตราการเจ็บป่วยเพื่อเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลทั่วสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้น 10% และในจำนวนนี้มี 1 ใน 3 อยู่ในกรุงลอนดอน ดังนั้น จึงอยากเตือนประชาชนให้ระมัดระวังตัวมากที่สุดในช่วงเทศกาลคริสต์มาส และฉลองปีใหม่ โดยไม่ควรเข้าไปปะปนกับคนเป็นจำนวนมาก
ขณะที่ จำนวนผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนในสหราชอาณาจักรเมื่อ 24 ชั่วโมงผ่านมาถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2564 พุ่งขึ้น 4,671 ราย ทำสถิติติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนรายวันมากที่สุดในโลก ส่งผลให้ยอดติดเชื้อสะสมเป็น 10,017 ราย ทำสถิติมากที่สุดในโลก และของยุโรป โดยมีสัดส่วนมากถึง 48% ของจำนวนผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนทั้งโลก
ผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาในสหราชอาณาจักร เปิดเผยว่า หากการระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนในสหราชอาณาจักรในปัจจุบันมีความต่อเนื่อง จะทำให้ภายในสิ้นเดือนธันวาคมนี้ สหราชอาณาจักรจะมีผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนรวมสะสมมากกว่า 1 ล้านคน ขณะที่ในรอบ 24 ชั่วโมงผ่านมา มีจำนวนผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนสะสมเป็น 1,265 ราย มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกและของยุโรป
สาเหตุจากประสิทธิภาพของวัคซีนในการป้องกันโรคระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนลดลงอย่างชัดเจน จากผลการศึกษาผู้ป่วยติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนจำนวน 581 ราย พบว่าวัคซีนไฟเซอร์ และแอสตร้าเซเนก้ามีประสิทธิภาพลดลงในการป้องกันผู้ป่วยที่แสดงอาการเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลต้า
อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษาเดียวกันชี้ให้เห็นว่าประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนเพิ่มขึ้นระหว่าง 70-75% ในช่วงแรกของการฉีดเข็มบูสเตอร์ หรือเข็มที่สาม