รถไฟความเร็วสูงเสี่ยงซ้ำรอยจ่ายค่าโง่

778
0
Share:

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เป็นการโกหกประชาชนเพื่อนำเงินลงทุนมหาศาลไปยกผลประโยชน์ให้เอกชน ขณะที่การพัฒนาที่เหมาะสมคือรถไฟทางคู่ซึ่งมีต้นทุนถูกกว่าถึง 3 เท่า หรือเพียง 50,000 ล้านบาท และยังโกหกปิดบังเรื่องการเปิดช่องให้เอกชนเข้ามาเทคโอเวอร์สมบัติชาติคือพื้นที่มักกะสัน ซึ่งนายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ชี้แจงว่าเป็นการให้เช่าพื้นที่ 50 ปี แต่บอกไม่หมดว่าเอกชนสามารถบังคับขยายสัญญาเช่าออกไปอีก 49 ปี รวมเป็น 99 ปี นอกจากนี้โครงการดังกล่าวระบุว่าเป็นการเปิดกว้างแบบ International Bidding แต่กลับพบผู้ยื่นประมูลเพียง 2 ราย เท่านั้น
.
จึงมองว่าเป็นการประเคนที่ดินให้กับผู้ชนะ เพราะผู้ประเมินคือนิด้า และศศินทร์ ซึ่งไม่ถูกขึ้นทะเบียนบริษัทที่ กลต.จึงไม่มีความน่าเชื่อถือเพียงพอ และยังมีความไม่ชอบมาพากลในการประเมินราคาที่ดิน ด้วยราคาที่ต่ำกว่าความเป็นจริงไปมาก ทำให้มูลค่าที่ดิน เหลือเพียงตารางวาละ 2-3 แสนบาท หรือคิดเป็น 10 %ของมูลค่าที่แท้จริง
.
สำหรับปัญหาใหญ่ที่จะกลายเป็นค่าโง่นั้น คือการส่งมอบพื้นที่ ซึ่งรัฐบาลมีการอ้างว่า สามารถทยอยส่งมอบพื้นที่ได้ ไม่ต้องส่งมอบพื้นที่ทั้งหมด แต่มองว่า เมื่อลงนามสัญญา ต้องพิสูจน์ได้ว่าการส่งมอบพื้นที่เกิดขึ้นได้จริง แต่วันนี้เห็นว่ามีปัญหาในการส่งมอบพื้นที่ จากปัญหาจากการรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภค เช่น ท่อส่งน้ำมันที่ใช้เวลาย้าย 6-12 เดือน ท่อระบายน้ำ และสายไฟฟ้า รวมถึงการขุดคลอง 17 เมตร ซึ่งมีพื้นที่ติดกับเขตพระราชฐาน ดังนั้นทางออกของปัญหาเรื่องนี้คือต้องล้มประมูลโครงการแล้วคืนเงินประกันให้เอกชนไปแบบไม่มีการติดแบล็คลิสต์
.
ด้านนายประภัสร์ จงสงวน อดีตผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทยหรือ รฟท. กล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าวถือเป็นการฮั้วประมูล ซึ่งน่าสังเกตุว่าโครงการรถไฟความเร็วสูงเป็นเรื่องของเบื้องบนที่สั่งการมาให้ รฟท.ดำเนินการ เพราะก่อนหน้านี้ไม่เคยมีแผนศึกษาเส้นทางดังกล่าวมาก่อน เป็นธรรมชาติของทุกรัฐบาลที่เข้ามาผลักดันโครงการเอาหน้า แต่พอสุดท้ายไม่สำเร็จคนที่โดนด่าและมีความผิดคือ รฟท. เช่นเดียวกับกรณีของโครงการโฮปเวลล์ที่มีการผลักดันในรัฐบาลชุดเก่า
.
อีกทั้งมองว่าโครงการนี้มีสิทธิ์ที่จะเป็นค่าโง่ครั้งใหญ่สูงมาก จากสาเหตุเรื่องการส่งมอบพื้นที่ไม่ได้ตามกรอบเวลา จึงเกิดคำถามว่าโครงการนี้ได้ประโยชน์กับประชาชนหรือใครกันแน่ เพราะเอกชนที่เข้ามาลงทุนไม่ได้มาเพื่อการกุศลต่างต้องการหวังผลประโยชน์และกำไรมหาศาล
.
ที่สำคัญร่างสัญญาไม่เคยมีการเปิดเผยข้อมูลให้สาธารณะทราบ มีการปิดเป็นความลับมาตลอดน่าเชื่อได้ว่าเป็นการเปิดโอกาสเกิดกรณีทุจริตข้าราชการ อีกทั้งรัฐบาลอาจร่วมรู้เห็นด้วยจากพฤติกรรมพยายามดึงให้รถไฟสามสนามบิน เกี่ยวข้องกับอีอีซี เพราะกฎหมายอีอีซีเป็นกฎหมายพิเศษ และหากดูเงื่อนไขพิเศษในการใช้พื้นที่อีก 49 ปี ไม่ใช่เพียงแค่ 50 ปี แต่รัฐบาลต้องรีบเซ็นเพราะกลัวการวิพากษ์วิจารณ์ และไม่ให้ตั้งกรรมาธิการ
.
ด้านนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยที่จะให้โครงการไฮสปีดเดินหน้าต่อไป เพราะไม่โปร่งใสตั้งแต่แรก พร้อมขอเตือนนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ตั้งแต่แรก ว่าหากมีการลงนามสัญญา แล้วเกิดอะไรขึ้นในอนาคตต้องเป็นผู้รับผิดชอบ เพราะเป็นเบอร์ 1 ของกระทรวงคมนาคม ดังนั้นอย่าเอาชีวิตของคุณไปเกี่ยวข้องเรื่องนี้กับเขาเลย