รฟท.กางหนี้เหลืออีก 2.7 แสนล้านบาท เล็งชงครม.กู้ 1.8 หมื่นล้านบาท เสริมสภาพคล่อง

242
0
Share:
รฟท. กาง หนี้ เหลืออีก 2.7 แสนล้านบาท เล็งชงครม.กู้ 1.8 หมื่นล้านบาท เสริมสภาพคล่อง

รายงานจากกระทรวงคมนาคม แจ้งว่า ในการประชุมระหว่าง นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กับผู้บริหาร 8 หน่วยงานที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแล ได้แก่ กรมการขนส่งทาง (ขร.) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) บริษัท เอสอาร์ที แอสเสจ จำกัด บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) และบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด(บวท.) นั้น นายสุรพงษ์ได้มอบให้ทุกหน่วยงานไปทบทวน ปรับคำขอเสนองบฯ ให้มีความสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภา และส่งคำขอเสนองบฯ มายังกระทรวงคมนาคม ภายในวันที่ 27 กันยายน 2566 เพื่อให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมพิจารณา ก่อนเสนอสำนักงบประมาณภายในวันที่ 6 ตุลาคม 2566

อีกทั้งยังได้สั่งการให้ รฟท. เร่งแก้ไขปัญหาหนี้สิน โดยนำสินทรัพย์ที่มีอยู่ไปสร้างรายได้เพิ่มขึ้น เพราะจากข้อมูลพบว่า ที่ดินที่ รฟท. มีอยู่ประเมินแล้วมีมูลค่าประมาณ 3 แสนล้านบาท แต่สามารถนำไปหารายได้ได้เพียงแค่ 3 พันล้านบาท หรือประมาณ 1% เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม รฟท. เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขอกู้เงินอีก 1.8 หมื่นล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่อง และปัจจุบัน รฟท. มีหนี้สินอยู่ประมาณ 2.7 แสนล้านบาท และปี 2565 ขาดทุนอยู่ประมาณกว่า 2 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม จะเดินทางไปยัง 8 หน่วยงานที่อยู่ภายใต้กำกับดูแล เพื่อมอบนโยบาย และลงรายละเอียดในการดำเนินนโยบายเรื่องต่างๆ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มที่ รฟท. เป็นหน่วยงานแรก

ขณะเดียวกันที่ประชุม ยังได้สั่งการให้ บวท. เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการจราจรทางอากาศ เพื่อรองรับเที่ยวบินที่จะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในช่วงดำเนินนโยบายวีซ่าฟรีของรัฐบาล ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวจีน และคาซัคสถาน เข้าประเทศได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า ที่จะเริ่มในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) ประมาณปลายเดือนกันยายนนี้