รฟม.ลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีม่วง 14-20 บาทแบบไม่มีกำหนด

นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า บอร์ด รฟม. มีมติเห็นชอบให้ขยายมาตรการลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรม หรือสายสีม่วง ออกไปโดยไม่มีกำหนดจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง จากเดิมสิ้นสุดในวันที่ 30 ก.ย. เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน จากผลกระทบโควิด-19 และภาพรวมเศรษฐกิจที่ยังไม่ขยายตัว
.
ทั้งนี้อัตราค่าโดยสารจะเริ่มต้นที่ 14 บาท และจ่ายสูงสุด 20 บาทตลอดสาย จากอัตราปกติจ่ายสูงสุด 42 บาท โดยการปรับลดค่าโดยสารดังกล่าวทำให้รฟม.มีรายได้ลดลง เดือนละ 20 ล้านบาท และเริ่มมาตรการมาตั้งแต่เดือนม.ค. 2563 รวมเวลา 9 เดือน โดยใช้เงินสำรองที่มีเป็นกระแสเงินสด มาอุดหนุนส่วนต่างรายได้ที่ลดลง
.
ซึ่งปัจจุบันเงินสำรองของรฟม.มาจากรายได้ 2 ส่วนหลัก คือ ค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีม่วง 400 ล้านบาท/ ปี และค่าสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน 2,500 ล้านบาท/ปี โดยขณะนี้มีเงินสำรองเหลือ ประมาณ 160 ล้านบาท จากที่ก่อนหน้านี้มีกว่า 500 ล้านบาท เนื่องจาก ล่าสุด รฟม.ถูกปรับลดงบในปี 2564 จำเป็นต้องนำเงินสำรองจำนวน 260 ล้านบาท มาใช้จ่ายค่าจ้างเดินรถสายสีม่วง
.
อย่างไรก็ตามทางบอร์ดมีความกังวลต่อภาระค่าโดยสารส่วนต่างที่ต้องจ่าย จึงขอให้รฟม. หารือกับฝ่ายนโยบายถึงกรอบระะยะเวลาการลดค่าโดยสารต่อไป เพื่อจะได้ขอเงินอุดหนุนจากรัฐบาล
.
ส่วนปริมาณผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายสีม่วง วันธรรมดาเฉลี่ยอยู่ที่ 40,000 เที่ยว/คน/วัน ลดลงจากช่วงก่อน เกิดโรคโควิด-19 ที่มีเฉลี่ย 62,000 เที่ยว/คน/วัน ขณะที่วันหยุดผู้โดยสารเหลือประมาณ 20,000 เที่ยว/คน/วัน ด้านรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน วันธรรมดาเฉลี่ย 330,000 เที่ยว/คน/วัน จากเดิมมีประมาณ 400,000 เที่ยว/คน/วัน ส่วนวันหยุดเหลือประมาณ 200,000 เที่ยว/คน/วัน