รมว.ต่างประเทศเผย ประนามรัสเซียไม่ได้ประโยชน์อะไร ไทยต้องหาจุดยืนให้เจอก่อน

นายดอน ปรมัติวินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พูดคุยถึงปัญหาความขัดแย้งระหว่างยูเครนกับรัสเซีย สำหรับไทยอาจจะต้องปรับท่าทีบางส่วน เพราะเห็นว่าการประนามของหลายฝ่ายไม่ได้ช่วยอะไร แต่ไทยจะต้องหาจุดที่สามารถช่วยให้สถานการณ์เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นได้ ต้องช่วยกันคิดว่าต้องทำอย่างไร ซึ่งทำได้ เราจะต้องหาทางส่งเสริมการพูดคุย ซึ่งขณะนี้มีการพูดคุยกันอยู่ ต้องทำให้การพูดคุยมีความต่อเนื่อง ไม่หยุดนิ่ง

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ตอนนี้คนส่วนใหญ่อยู่ในกระแสโซเชียลเยอะ ต้นทางของกระแสโซเชียลก็มาจากฝั่งยุโรป ซึ่งเป็นการสื่อสารที่คนทั่วโลกเข้าใจ แต่คนทั่วไปไม่มีทางเข้าใจการสื่อสารภาษารัสเชีย คนส่วนใหญ่จึงเทไปทางตะวันตก

ส่วนกรณีประธานาธิบดียูเครนสมัครเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป ท่าทีจากนี้จะเป็นอย่างไร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า จะทำให้ท่าทีของการเจรจาจะเข้มข้นขึ้น แข็งขึ้น แต่เป็นปกติของการเจรจา เป็นลักษณะของการเสริมท่าที ซึ่งเป็นเรื่องปกติ และส่งผลให้การเจรจายากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้น ต้องช่วยกันเอาจริงเอาจังหาทางออกมากกว่าที่จะหาทางเสริมความแกร่งของท่าที ซึ่งการเข้าสมัครเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปของยูเครนนั้น ไม่เชิงว่าเป็นความคิดของยูเครนเอง น่าจะมีปัจจัยอื่นเพื่อต้องการให้สถานการณ์ยึดเยื้อออกไป เพราะคนที่หวังประโยชน์จากการสู้รบครั้งนี้มีเยอะ

เมื่อถามว่ามีแนวทางอย่างไรที่จะกดดันกลุ่มที่มีประโยชน์จากความขัดแย้ง นายดอน กล่าวว่า อย่าลืมว่าคนเสียประโยชน์คือคนทั้งโลก ซึ่งต้องมาข่วยกันหาวิธีในรูปแบบการหารือที่เป็นประโยชน์ที่สุด เราทะเลาะกันมามากแล้ว

นายดอน ปรมัติวินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ไทยมีความโชคดีอย่างหนึ่งคือ เราเป็นเพื่อนกับคนทั้งโลก สามารถพูดคุยกันได้เยอะ แต่คุยแล้วมีน้ำหนักมากหนักแค่ไหนก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เรามีช่องทางในการพูดคุย ทั้ง EU รัสเซีย ยูเครน และสหรัฐอเมริกา มีช่องทาง เพียงแต่บางเรื่องเราต้องปล่อยให้ไหลไปตามธรรมชาติ ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องรีบกระโดดเข้าไปมีบทบาท เรื่องนี้เป็นเรื่องของเวทียุโรป เราเป็นแค่ส่วนหนึ่งของโลก ก็ต้องดูว่า สุดท้ายจะคลี่คลายหรือไม่ และผลที่ตามมากับประเทศไทยจะเป็นอย่างไร เพราะหากเป็นเช่นนี้ต่อไป ปัญหาพลังงานก็จะตามมาแน่นอน เงินเฟ้อจะสูงขึ้น ซึ่งเราไม่ต้องการเช่นนั้น