‘รองนายกฯ สุพัฒนพงษ์’ วอนประชาชนมองบวก ที่ของราคาแพงขึ้นเพราะคนซื้อเยอะ

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน เผยถึงการเตรียมการแก้ไขราคาสินค้าแพงว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ประเด็นสินค้าราคาแพงต้องพิจารณาว่ามาจากปัจจัยใด ทางรัฐบาลเองมีนโยบายและได้หารือกับทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อควบคุมภาวะเงินเฟ้อ โดยตัวเลขจากสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และการพยากรณ์จากหลายสถาบัน เชื่อได้ว่าอัตราเงินเฟ้อของไทยจะอยู่ในระดับ 1-3 เปอร์เซ็นต์ โดยไม่สามารถดูเฉพาะเจาะจงในรายการสินค้าได้ ต้องดูภาพรวมของอัตราเงินเฟ้อแทน

ซึ่งเป็นเป้าหมายที่จะต้องควบคุมให้ได้ จะแตกต่างจากประเทศอื่นๆ ส่วนไหนที่ตรึงได้ก็พยายามจะตรึง ส่วนไหนที่เป็นปัญหาเกี่ยวกับกลไกตลาดก็จำเป็นต้องเพิ่มการผลิตให้มากขึ้นกรณีที่เกิดขาดความแคลนในสินค้าประเภทนั้น ไม่อยากให้ประชาชนไปเฝ้ามองเพียงแค่การขาดสินค้าตัวใดตัวหนึ่ง เพราะอยากให้ดูในภาพรวมดีกว่า แต่เรื่องนี้แสดงถึงการที่ประชากรมีการบริโภคมากขึ้น หรือแสดงถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกจึงทำให้เกิดความต้องการบริโภคสูงขึ้น

ที่ผ่านมาได้ชะลอตัวการผลิต เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เกิดการลงทุนลดลงและผู้ประกอบการไม่กล้าที่จะขยายกำลังการผลิต บางส่วนของสินค้ายังมีการชะงักชะงันอยู่จากการแพร่ระบาดของเชื้อโอไมครอน ยังมองว่าเป็นเหตุการณ์นี้เป็นเรื่องชั่วคราว และเชื่อได้ว่าจะเกิดการผลิตมากขึ้นหากสามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดได้ดี

ทั้งนี้ สำหรับประเด็นหากอัตราเงินเฟ้อขึ้นไปเฉียด 3 เปอร์เซ็นต์ จะมีการเรียกประชุมหน่วยงานเศรษฐกิจฉุกเฉินหรือไม่ ด้านนายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า รอให้เกิดก่อนแล้วกัน เพราะตอนนี้ยังไม่เกิดติดตามอย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว รัฐบาลมีความห่วงใยในเรื่องนี้ และนายกฯให้ความสำคัญเรื่องนี้เช่นกัน ประชุมร่วมกับกระทรวงการคลังตลอด นายกฯเห็นว่ารัฐบาลก็ได้ทำในหลายๆ เรื่องอยู่แล้ว ทั้งการตรึงราคาสินค้าบางส่วน เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบเป็นวงกว้าง เชื่อว่าสถานการณ์นี้เป็นเรื่องชั่วคราว และไม่ให้เกิดความตื่นตระหนกจนทำให้ผู้ประกอบการตัดสินใจขึ้นราคาสินค้า