‘รองนายกฯ อนุทิน’ ชี้ต้องคุมโรค-ยอดเสียชีวิต “ให้ได้” ถึงจะปรับเป็นโรคประจำถิ่น

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการปรับโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น ว่าสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญที่สุด คือ การควบคุมโรค ต้องมีประสิทธิภาพ ต้องควบคุมได้ มีผู้เสียชีวิตน้อยที่สุด เมื่อทำได้ มันก็เหมือนการเดินเข้าไปสู่การเป็นโรคประจำถิ่น รวมถึงความพร้อมของระบบการดูแลรักษาผู้ป่วย ยา สถานพยาบาล และบุคลากร มีพร้อม

นอกจากนี้ไทยมี อสม. ไว้ค่อยช่วยดูแลระบบสาธารณสุข นอกจากนี้ในวันที่ 1 พ.ค.นี้ ก็ยกเลิก TEST AND GO แต่ยังต้องให้ตรวจ ATK ถ้าในอนาคต เมื่อสถานการณ์ดีขึ้น ก็ต้องผ่อนคลายไปเรื่อยๆ

คำว่า Endemic ไม่มีกฎเกณฑ์อะไร อยู่ที่พฤติกรรม ฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 แล้วก็ให้มารับเข็ม 4 เพราะตอนนี้ยังไม่มีรายงานผู้ที่รับเข็ม 4 ติดเชื้อเสียชีวิต เรื่องความสูญเสียจากโควิด ตามรายงานจะมีเสียชีวิตจากโควิดโดยตรง เกิดในกลุ่มเสี่ยง ผู้สูงอายุ ที่สำคัญคือ 97% ของผู้ที่เสียชีวิต ไม่ได้รับวัคซีนแม้แต่เข็มเดียว อีกอย่างคือการเสียชีวิต แล้วมีโควิดเป็นโรคร่วม หรือเสียชีวิตโดยที่โควิดไม่ได้เป็นสาเหตุหลัก

ขณะนี้อัตราการใช้อุปกรณ์ อาทิ เครื่องช่วยหายใจลดน้อยลง และเตียงที่ใช้ไม่ได้เพิ่มมากขึ้น และมีห้อง ICU เหลือพอสมควร และมียาสำรองไว้ตลอด ยาฟาวิพิราเวียร์ เรมดิซิเวียร์ โมลนูพิราเวียร์ แพกซ์โลวิด ได้พยายามให้มียาหลากหลายประเภท ให้สอดคล้องกับผู้ป่วยแต่ละคน และพยายามหาวัคซีนเข้ามาหลากหลายชนิด เพื่อลดความสูญเสียให้ได้มากที่สุด

ทั้งนี้ต้องให้ความสำคัญกับการลดยอดผู้ป่วยหนัก ยอดผู้เสียชีวิต แต่ถ้าจะมาพูดกันเรื่องจำนวนผู้ติดเชื้อ ก็ต้องล็อกดาวน์ ถ้าอยากได้ยอดผู้ติดเชื้อเป็นศูนย์ ถามว่าจะทำตรงนั้นไหม ประเทศส่วนใหญ่ เขาก้าวข้ามไปแล้ว  เราอยากได้ตัวเลขสวยๆ แต่ทำมาหากินไม่ได้หรือ ต้องดูว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้ทุกมิติดำเนินต่อไปได้ เรารับฟังเสียงวิจารณ์ แต่ใช้ความรู้ด้านการระบาดวิทยาและประสบการณ์ในการควบคุมดูแลโรคและสถานการณ์ นายอนุทินกล่าว