รอจังหวะ! ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ร่วงกว่า 120 จุด
เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2564 (ตามเวลาในสหรัฐ) ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ระดับ 32,825 จุด -127 จุด หรือ -0.39% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 3,962 จุด -6 จุด หรือ -0.16% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 13,471 จุด +11 จุด หรือ +0.09%
สาเหตุจากนักลงทุนรอการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐที่เกิดขึ้นในวันพุธและวันพฤหัสบดีนี้ โดยเฉพาะการแถลงมุมมองของประธานธนาคารกลางสหรัฐที่เกี่ยวกับแนวโน้มเงินเฟ้อในสหรัฐ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะสั้นอายุ 10 ปี ยังคงทรงตัวใกล้เคียงที่ระดับ 1.6% ในคืนที่ผ่านมา ซึ่งลดต่ำลงจากระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี หรือตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2020 เป็นต้นมา
.
ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 64.80 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.59 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.9% ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 68.39 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.49 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล โดยในสัปดาห์ที่แล้ว ราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 แห่ง ทะยานขึ้นถึง 67.98 และ 71.38 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลตามลำดับ ทำสถิติราคาน้ำมันดิบตลาดโลกสูงสุดในรอบ 2 ปี 5 เดือน
สาเหตุจากการขายทำกำไรระยะสั้นจากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งสูงในรอบกว่า 2 ปี ก่อนหน้านี้ จากปัจจัยปริมาณสำรองน้ำมันสำเร็จรูปรายสัปดาห์ในสหรัฐอเมริกา ลดต่ำลงถึง 11.9 ล้านบาร์เรล ซึ่งลดลงมากกว่าที่คาดไว้ ลงมาเหลือเพียง 231.6 ล้านบาร์เรล ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเริ่มอ่อนค่าลงในกรอบแคบๆ
.
ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,727.20 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -2.00 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -0.1% สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแกว่งตัวในทิศทางแข็งค่าขึ้นในช่วงแคบๆ และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะสั้นทรงตัวในระดับต่ำกว่าสถิติสูงสุดในรอบสูงสุด 1 ปี เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านไป
