ระวัง 4 จุด! หมอธีระเปิด 4 จุดใหญ่อาจเห็นการระบาดเพิ่มมากขึ้น

501
0
Share:
รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความมองการวิเคราะห์การระบาดของไทยเรา มีข้อความดังนี้
ด้วยสถานการณ์ระบาดที่กระจายไปทั่ว ทุกเพศทุกวัย หลายหลายอาชีพ การควบคุมแบบไล่ปิดไปแต่ละที่แต่ละแห่งแต่ละกิจกรรมนั้น จะไม่เพียงพอในการจัดการแล้ว อย่างมากก็ได้เพียงบรรเทาอาการบางส่วน แต่สิ่งที่อาจเกิดขึ้นตามมานั้นจะเป็นการปะทุตามที่ต่างๆ เหมือนน้ำที่บรรจุในภาชนะที่มีรูมากมาย ปิดรูไปหลายรู แต่รูที่เหลืออยู่นั้นก็จะมีน้ำรั่วไปทางนั้น
.
หรือหากผู้ใหญ่จะอธิบายให้เด็กๆ ลูกหลานเราได้เข้าใจสถานการณ์ ก็เปรียบเหมือนเล่นเกมส์เอาค้อนทุบหัวตัวตุ่นนั่นเอง จะหยุดตัวตุ๋นไม่ให้โผล่มาได้ มีสองทางคือ ปิดรูให้หมด หรือปิดสวิทช์เกมส์ ส่วนการจะเอาตัวตุ่นออกไปจากสนามนั้นคงทำไม่ได้แล้ว เพราะตอนนี้ตัวตุ่นแพร่พันธุ์ไปมากและอยู่ใต้ดิน
สิ่งที่ประชาชนอย่างเราต้องเตรียมรับมือคือ การระบาดถัดจากนี้น่าจะมีการปะทุใน 3-4 จุดหลัก
.
ได้แก่ “ที่ทำงาน” ที่ยังมีการเปิดทำการแบบ on-site อยู่ ไม่ว่าจะเป็นแบบออฟฟิศ ห้าง ร้าน สถานประกอบกิจการเล็กกลางใหญ่และโรงงานต่างๆ โดยจะมีโอกาสแพร่เชื้อติดเชื้อกันได้หากป้องกันไม่ดีพอ ทั้งระหว่างกระบวนการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการค้าขายหรือบริการ ระหว่างคนทำงานกันเอง หรือคนทำงานกับลูกค้า รวมถึงการประชุม หรือระหว่างการพักกลางวัน พบปะกินข้าวด้วยกัน นั่งกินข้าวในร้านอาหารหรือโรงอาหารร่วมกัน ใช้ของใช้ร่วมกัน แชร์ของกินร่วมกัน สุขาสาธารณะ/ที่ทำงาน รวมถึงการนัดพบปะกันหลังเลิกงาน
“ร้านอาหาร ศูนย์อาหาร โรงอาหาร” ทั้งที่อยู่ในห้างสรรพสินค้า หรืออยู่ที่อื่นๆ อาจเกิดการระบาดจากการแพร่เชื้อติดเชื้อในหมู่ผู้ประกอบกิจการเอง เช่น การร่วมกันทำอาหารด้วยกัน หรืออยู่กันแออัดใกล้ชิด หรือระหว่างคนให้บริการและลูกค้า หรือจากลูกค้าที่ติดเชื้อไปสู่ลูกค้าก็ตาม หากป้องกันไม่ดีพอ
“ขนส่งสาธารณะ” เป็นไปตามสัจธรรมคือ หากมีการติดเชื้อกระจายไปทั่ว แล้วไม่มีการหยุดเพื่อตัดวงจรการระบาดต่อเนื่อง จะมีโอกาสเสมอ ขึ้นอยู่กับว่าเมื่อใดและที่ไหน ขนส่งสาธารณะไม่ว่าจะเป็นรถแท็กซี่ รถตู้ รถเมล์และรถเมล์ปรับอากาศ รถไฟ เรือ เครื่องบิน ฯลฯ โดยเฉพาะช่วงที่มีคนใช้บริการมาก ย่อมมีความเสี่ยงสูงมาก
สุดท้ายที่จะมีโอกาสเกิดมากขึ้น หากป้องกันไม่ดี คือ “ในบ้านและที่อยู่อาศัยประเภทต่างๆ” ตราบใดที่ยังมีการดำเนินชีวิต ออกไปทำงานของสมาชิกในครอบครัว ย่อมมีโอกาสเสี่ยงที่จะนำพาเชื้อมาสู่สมาชิกในครอบครัว หรือคนที่อยู่อาศัยในที่เดียวกัน เช่น หอพัก อพาร์ตเมนท์ คอนโดมิเนียม ชุมชนที่อยู่กันอย่างแออัด
การวิเคราะห์ข้างต้น ประเมินตามธรรมชาติของการใช้ชีวิตของคน ภายใต้ข้อกำหนดในปัจจุบัน ดังนั้นคงพอจะเข้าใจได้ว่า สถานการณ์วิกฤติเช่นนี้ เราคงต้องร่วมแรงร่วมใจกันปกป้องสวัสดิภาพและความปลอดภัยในชีวิตของเราและสมาชิกในครอบครัว