รัฐนิวเซาท์เวลส์จ่ายเกือบ 20,000 บาทรับผลกระทบชั่วโมงทำงานหายจากปิดล็อกดาวน์

กระทรวงสาธารณสุข ออสเตรเลีย เปิดเผยว่า ในรอบ 24 ชั่วโมงผ่านมาถึงเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2564 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งขึ้น 121 ราย ไม่เพียงทำสถิติติดเชื้อรายวันมากที่สุดในรอบ 10 เดือน หรือนับตั้งแต่วันที่ 4 กันยายน 2563 เป็นต้นมา แต่ยังทำสถิติติดเชื้อรายวันแตะหลัก 100 ครั้งใหม่ใน 41 สัปดาห์ ขณะที่ไม่พบผู้เสียชีวิตรายใหม่

รัฐบาลแห่งรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งมีเมืองหลวงคือเมืองซิดนีย์ เปิดเผยว่า สถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ที่ทำให้รัฐบาลต้องประกาศมาตรการปิดล็อกดาวน์ทั้งรัฐ ทำให้ประชาชนชาวออสเตรเลียสูญเสียชั่วโมงการทำงาน และรายได้ซึ่งเป็นผลกระทบจากมาตรการของรัฐ ดังนั้น นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย นายสก็อต มอร์ริสัน ประกาศแพคเกจเยียวยา มีรายละเอียดดังนี้

1.จ่ายเงินสดมีมูลค่า 325 ถึง 375 ดอลลาร์สหรัฐ หรือระหว่าง 10,725 ถึง 12,375 บาท สำหรับพนักงาน หรือแรงงานที่ต้องสูญเสียชั่วโมงการทำงานถึง 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์

2.จ่ายเงินสดมีมูลค่า 500 ถึง 600 ดอลลาร์สหรัฐ หรือระหว่าง 16,500 ถึง 19,800 บาท สำหรับพนักงาน หรือแรงงานที่ต้องสูญเสียชั่วโมงการทำงานตั้งแต่ 21 ชั่วโมงขึ้นไปต่อสัปดาห์

3.กิจการ หรือธุรกิจที่มีผลประกอบการรายได้ระหว่าง 75,000 ถึง 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือมีรายได้ระหว่าง 2,475,000 ถึง 1,650 ล้านบาท ซึ่งสูญเสียรายได้ราว 30% ของรายได้ปกติ รัฐบาลแห่งรัฐนิวเซาท์เวลส์จะจ่ายเงินให้สูงถึง 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 330,000 บาท บนเงื่อนไขที่ว่าบริษัทยังคงรักษาจำนวนพนักงานไว้ตามที่กำหนด

ทั้งนี้ รัฐบาลแห่งรัฐนิวเซาท์เวลส์ ประกาศมาตรการปิดล็อกดาวน์เมื่อวันที่ 9 ถึง 16 กรกฎาคมนี้ อย่างไรก็ตาม จากจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันไม่มีท่าทีลดลงแต่อย่างใด จึงมีความเป็นไปได้ที่อาจะขยายเวลาการปิดล็อกดาวน์จาก 4 เป็น 6 สัปดาห์ เพื่อควบคุมและป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 ที่กลับมาระบาดพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วจากสายพันธุ์เดลต้า หรืออินเดีย