รัฐบาลชวนออมเงินวันละ 30 ครบ 30 ปี ได้บำนาญ 3,000 บาทต่อเดือน

724
0
Share:
กองทุนการออมแห่งชาติ

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้กำหนดให้การออมเป็นวาระแห่งชาติ เพื่อให้ประชาชนมีความมั่นคงในบั้นปลายชีวิต สร้างวินัยการออมในทุกช่วงวัย โดยมีกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เป็นกลไกส่งเสริมการออมของประชาชนรายย่อย ผ่านการสมัครเป็นสมาชิกซึ่งจะได้บำนาญเมื่อสมาชิกมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์

รัฐบาลจะจ่ายเงินสมทบให้กับผู้ที่นำส่งเงินออมตามระดับอายุของผู้เป็นสมาชิก และเป็นอัตราส่วนกับจำนวนเงินสะสม ซึ่งในช่วงปี 2561 จนถึงก่อนการแพร่ระบาดโควิด-19 มีอัตราการเติบโตของสมาชิกและการนำเงินส่งออมเข้ากองทุนฯเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2561 จาก 6.1 แสนคน ปัจจุบัน 2 ล้านกว่าคน แต่ด้วยผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้สมาชิกมีรายได้ลดลง ประมาณ 50% หยุดการนำส่งเงินเข้ากองทุน

ทั้งนี้ รัฐบาลขอย้ำให้ประชาชนสบายใจว่า หากสมาชิกไม่สามารถส่งเงินออมสะสมทุกเดือน หรือไม่สามารถส่งได้เท่ากันในทุกๆเดือน กอช. จะยังคงสิทธิความเป็นสมาชิก เพียงแต่จะไม่ได้รับเงินสมทบจากรัฐ และเมื่อมีรายได้เพียงพอต่อการออมก็ขอให้กลับมาส่งเงินสะสม เพื่อชดเชยส่วนที่ได้ขาดส่งไป เพราะหากมีเงินออมน้อยจะทำให้ได้รับเงินบำนาญน้อย

และในปี 2565 กอช. จะยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนวาระการออมแห่งชาติ ผ่านการแก้กฎหมาย เพื่อจูงใจให้สมาชิกเข้ามาออมเพิ่ม โดยหนึ่งในประเด็นสำคัญคือ การขยายอายุให้สมาชิกเข้ามาออมได้จาก 60 ปี เป็น 65 ปี และแก้กฎหมายให้ผู้ที่อยู่ในระบบประกันสังคม มาตรา 40 สามารถเข้ามาเป็นสมาชิก กอช. ได้ เพื่อให้คนไทยเข้าถึงการออมได้มากขึ้น และรองรับสังคมสูงวัยอีกด้วย โดยขณะนี้ ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการกอช.แล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาในระดับนโยบายต่อไป

นอกจากนี้ ยังจะมีการแก้กฎหมายให้สมาชิกที่เกษียณอายุและเกิดการเจ็บป่วยระยะสุดท้าย สามารถเลือกรับบำเหน็จได้ จากเดิมกฎหมายระบุให้รับบำนาญได้อย่างเดียว

สำหรับประชาชนผู้ประกอบการอาชีพอิสระ หรือเยาวชนอายุ 15 ปีขึ้นไป ที่ยังไม่ได้เริ่มต้นการออม รัฐบาลขอเชิญชวนให้มาเริ่มต้นการออมกับกอช. ตัวอย่างผลตอบแทนที่น่าสนใจ อาทิ วัยทำงานเริ่มออมเมื่ออายุ 30 ปี วันละ 30 บาท จะมีเงินออมรวมประมาณปีละ 10,800 บาท พร้อมได้รับเงินสมทบจาก กอช. เพิ่มตามช่วงอายุ 600 บาท สูงสุด 1,200 บาทต่อปี หากคิดเงินสมทบเป็นผลตอบแทนเฉลี่ยได้รับเพิ่มโดยประมาณ 3.5% ต่อปี  เมื่ออายุ 60 ปีบริบูรณ์ จะได้รับบำนาญตลอดชีพประมาณเดือนละ 3,000 บาท