รัฐบาลทหารเมียนมาขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเกือบ 21% เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี ตั้งแต่ปฏิวัติ

177
0
Share:
รัฐบาลทหาร เมียนมา ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ เกือบ 21% เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี ตั้งแต่ปฏิวัติ

รัฐบาลทหารเมียนมา ซึ่งทำการปฏิวัติยึดอำนาจประเทศเมียนมาเมื่อ 2 ปี 8 เดือนผ่านมา หรือนับตั้งแต่กุมภาพันธ์ปี 2021 ประกาศปรับขึ้นค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำเกือบ 21% นับเป็นการปรับขึ้นค่าจ้างแรงงานครั้งแรกในรอบ 5 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา และยังเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกภายใต้การปกครองของรัฐบาลทหารเมียนมา โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา

สื่อท้องถิ่นของรัฐบาลทหารเมียนมามีชื่อว่า โกลบอล นิว ไลท์ ออฟ เมียนมา รายงานเพิ่มเติมว่า รัฐทหารเมียนมาประกาศการปฏิรูปแรงงานด้วยการประกาศปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำรายวัน ทำให้อัตราค่าจ้างขั้นต่ำในประเทศปรับขึ้นจากเดิมวันละ 4,800 จ๊าด หรือ 84.42 บาทต่อวัน ขึ้นมาเป็นวันละ 5,800 จ๊าด หรือ 102 บาทต่อวัน โดยเป็นการทำงาน 8 ชั่วโมงต่อวัน

รัฐบาลทหารเมียนมา เปิดเผยว่า การปรับขึ้นค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำดังกล่าว เพื่อเป็นการช่วยเหลือ และบรรเทาเบาบางปัญหาเงินเฟ้อในประเทศที่อยู่ในระดับสูง ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากการดำรงชีวิต

ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนกันยายนผ่านมา รัฐบาลทหารเมียนมาประกาศปรับขึ้นเงินพึงได้ให้กับเจ้าหน้าที่ทหาร และข้าราชการเมียนมา เป็นจำนวนเดือนละ 30,000 จ๊าด หรือเดือนละ 528 บาท

ด้านธนาคารพัฒนาแห่งเอเชีย หรือเอดีบี เปิดเผยว่า ประเมินอัตราเงินเฟ้อในประเทศเมียนมาทั้งปีนี้อยู่ที่ระดับ 14% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเมื่อเดือนเมษายนที่เคยคาดการณ์อีก 3.5% ซึ่งภาวะเงินเฟ้อของประเทศเมียนมาอยู่ในภาวะเพิ่มขึ้นโดยสวนทางกับภาวะเงินเฟ้อในภาพรวมของอาเซียนที่ถูกคาดการณ์ว่าจะลดลงจากระดับ 4.2% มาอยู่ที่ระดับ 3.6% ในปีนี้

สำหรับค่าเงินจ๊าดของประเทศเมียนมาเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อภาวะเงินเฟ้อในระดับสูง เนื่องจากค่าเงินจ๊าดมีค่าแตกต่างกันมากระหว่างเงินจ๊าดของทางการและค่าเงินจ๊าดในตลาดมืด ปัจจุบัน ค่าเงินจ๊าดตรึงกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมีค่าที่ 2,100 จ๊าดต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ แต่ค่าเงินจ๊าดในตลาดมืดเคลื่อนไหวระหว่าง 3,300-4,000 จ๊าดต่อดอลลาร์สหรัฐ หรือมีส่วนต่างกว้างมากระหว่าง 700-1,900 จ๊าดต่อดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ราคาสินค้าวัตถุดิบที่ใช้บริโภครายวัน เช่น น้ำมันพืช และข้าว มีราคาพุ่งสูงถึง 2-3 เท่านับตั้งแต่ต้นปีนี้