รัฐบาลฝรั่งเศสทุ่มจ่ายกว่า 7,000 ล้าน ให้เกษตรกรเทไวน์ทิ้ง แก้ปัญหาไวน์ล้นตลาด

472
0
Share:
รัฐบาล ฝรั่งเศส ทุ่มจ่ายกว่า 7,000 ล้าน ให้เกษตรกรเท ไวน์ ทิ้ง แก้ปัญหาไวน์ล้นตลาด

รัฐบาลประเทศฝรั่งเศส เปิดเผยว่า ได้อนุมัติงบประมาณ 216 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 7,000 ล้านบาท จ่ายให้กับเกษตรกรไร่องุ่น หรือผู้ผลิตไวน์ ให้ทำลายไวน์ด้วยการเททิ้งไวน์มีปริมาณรวมกันกว่า 80 ล้านแกลลอน หรือกว่า 300 ล้านลิตร เนื่องจากเพื่อแก้ไขปัญหาภาวะไวน์ล้นตลาดจากการผลิตมากเกินความต้องการดื่มในตลาดไวน์ ภาวะเงินเฟ้อที่อยู่สูงมาก ต้นทุนในการผลิตและจัดเก็บไวน์พุ่งสูงมาก และปัจจัยสำคัญสุดท้าย คือ นักดื่มไวน์ในฝรั่งเศสเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการดื่มไวน์

รัฐบาลฝรั่งเศส เปิดเผยต่อไปว่า ยอมรับว่าไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีที่สุดไปกว่านี้ ในอดีตที่ผ่านมา เมื่อต้องเผชิญกับภาวะไวน์ล้นตลาด รัฐบาลฝรั่งเศสเคยแก้ปัญหาด้วยความพยายามนำไวน์ไปแปรรูปแล้ว เช่น เอาไปกลั่นทำบรั่นดี แต่ก็ไม่อาจแก้ปัญหาได้เบ็ดเสร็จ

เกษตรไร่องุ่นในประเทศฝรั่งเศสต้องเผชิญกับต้นทุนในการผลิตไวน์สูงมากในช่วง 2 ปีผ่านมา เริ่มจากราคาปุ๋ยถีบตัวสูงขึ้นเป็นผลจากรัสเซียทำสงครามกับยูเครน ทำให้กระทบการขนส่งปุ๋ย และขวดบรรจุไวน์ มายังฝรั่งเศส ท่ามกลางปัจจัยโลกร้อนที่กระทบต่อแผนการผลิตไวน์ที่ผันผวนตลอดเวลา

เกษตรกรฝรั่งเศสที่เป็นชาวไร่องุ่นในภูมิภาคบอร์โดซ์ (Bordeaux) ซึ่งเป็นแหล่งผลิตไวน์ของฝรั่งเศสที่มีชื่อเสียงโด่งดังของโลก เปิดเผยว่ารัฐบาลฝรั่งเศสพยายามจะจ่ายค่าจ้างให้ลดการผลิตไวน์ หรือให้เลิกปลูกองุ่น แล้วไปปลูกพืชชนิดอื่น เนื่องจากการผลิตไวน์ปัจจุบันนั้นมากเกินกว่าความต้องการของตลาดโลก ถ้าหากเกษตรชาวสวนองุ่นยังปลูกในปริมาณเดิมอีก ไวน์จะต้องโดนทำลายทิ้งอีกเช่นกัน

ทั้งนี้ ในแง่พฤติกรรมการดื่มไวน์ พบว่าคนดื่มไวน์ลดน้อยลง แม้แต่คนรุ่นใหม่ๆ ในฝรั่งเศสไม่นิยมดื่มไวน์กันแล้ว ในขณะที่อเมริกา พบว่าคนอเมริกันที่มีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไปเท่านั้นที่ดื่มไวน์กันมากขึ้น อย่างไรก็ตาม คนในวัยอื่นในสหรัฐอเมริกาดื่มไวน์ลดน้อยลง