รัฐบาลสหรัฐวอนให้อยู่บ้าน หลังยอดตายโควิดรายวันพุ่งเกิน 2,000 คน

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาดแห่งชาติสหรัฐอเมริกา หรือ CDC เปิดเผยว่า จำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 และเสียชีวิตในรอบ 24 ชั่วโมงผ่านมา ถึงวันที่ 24 พฤศจิกายน (ตามเวลาในสหรัฐ) พุ่งทะยานถึง 2,168 ราย ทำสถิติใหม่จำนวนผู้เสียชีวิตรายวันมากที่สุดในรอบ 6 เดือนกว่า หรือนับตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคม ส่งผลให้จำนวนผู้เสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 265,873 ราย ขณะที่จำนวนผู้ติดโรคระบาดโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมง ทะยานขึ้น 171,769 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมในสหรัฐอเมริกาพุ่งแตะ 12,951,729 ราย นอกจากนี้ จำนวนผู้ติดโรคระบาดโควิด-19 ในรัฐเท็กซัสพุ่งสูงถึง 13,998 ราย ทำสถิติยอดติดเชื้อรายวันมากที่สุดตั้งแต่เกิดโรคระบาดเป็นต้นมาด้วย
.
สถานการณ์การระบาดและการเสียชีวิตดังกล่าว ทำให้ผู้ว่าการรัฐหลายแห่ง เปิดแถลงเรียกร้องให้ประชาชนชาวอเมริกันอยู่ในที่พักอาศัย และเพิ่มความพยายามในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มากขึ้นกว่าปกติ ผู้ว่าการรัฐเคนตั๊กกี้ นายแอนดี้ บีเชียร์ กล่าวว่า เราชาวอเมริกันกำลังตกอยู่ในภาวะยากลำบากกับโรคระบาดโควิด-19
.
ด้านนายแพทย์มาร์ค กาลี่ ผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานสาธารณสุขในรัฐแคลิฟอร์เนีย เปิดเผยว่า ได้เปิดบริการ COVID Chat หรือการตอบปฏิเสธอย่างสุภาพกับการเชื้อเชิญให้เกิดการวมตัวกันของสมาชิกครอบครัวในที่ต่างๆ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้า ที่จะมาถึงในวันพฤหัสบดีที่ 26 นี้ ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา
.
ภาวะการรับรักษาผู้ป่วยด้วยโรคระบาดโควิด-19 ในโรงพยาบาลทั่วสหรัฐอเมริกา ต้องเผชิญกับวิกฤตการรับรักษาผู้ป่วย เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยเข้ารักษาในโรงพยาบาลพุ่งสูงกว่า 86,000 รายเมื่อวันอังคารที่ 24 ที่ผ่านมา ทำสถิติจำนวนผู้ป่วยโรคระบาดโควิด-19 เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้ ในเดือนพฤศจิกายน พบว่า มี 30 จากทั้งหมด 50 รัฐ ที่รายงานจำนวนผู้ป่วยโรคระบาดโควิด-19 เข้ารักษาในโรงพยาบาลด้วยสถิติมากเป็นประวัติการณ์
.
เจ้าหน้าที่จากหน่วยปฏิบัติการที่มีชื่อว่า Operation Warp Speed Program ในสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า รัฐท้องถิ่นต่างๆได้ร่วมทำงานกับฝ่ายกฎหมายของรัฐบาลสหรัฐ เพื่อประเมินการจัดสรรวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ในการจัดส่งครั้งแรกไปยังกลุ่มประชาชนชาวอเมริกันที่มีความเสี่ยงสูงกับโรคระบาดโควิด-19 จากการประเมินล่าสุด พบว่า จะสามารถจัดส่งวัคซีนดังกล่าวเป็นจำนวน 6.4 ล้านโดสได้ทันทีที่องค์การอาหารและยาแห่งชาติสหรัฐ หรือเอฟดีเอทำการอนุมัติยาวัคซีน ซึ่งเอฟดีเอจัดการประชุมในวันที่ 10 ธันวาคมนี้ สำหรับการจัดส่งวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ในสหรัฐ ได้รับการคาดว่าจะสามารถจัดส่งได้ถึง 40 ล้านโดสภายในสิ้นปีนี้