รัฐมนตรีช่วยคลัง พูดชัดเจนแบงก์ชาติแนะให้รัฐบาลกู้เงิน เป็นทางออกเหมะสมกับเงินดิจิทัล

338
0
Share:
รัฐมนตรีช่วยคลัง พูดชัดเจนแบงก์ชาติแนะให้รัฐบาล กู้เงิน เป็นทางออกเหมะสมกับ เงินดิจิทัล

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า แหล่งเงินที่ใช้ทำโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาทของรัฐบาลนั้น มีที่มาที่ไปจาก 2 ทางเลือก ทางแรก คือการตัดงบส่วนเกินของงบประมาณโดยบริหารจากส่วนที่ไม่ใช้ประโยชน์ไว้แล้ว ใน 2 ปีงบประมาณ ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย หรือแบงก์ชาติ แนะนำว่า การใช้งบประมาณปกติมีข้อจำกัด สาเหตุจากการแบ่งที่มาของเงินเพียง 2 ปีงบประมาณมาใช้ดำเนินโครงการนี้เพียงโครงการเดียวนั้นทำได้ยาก เนื่องจากพ.ร.บ.งบปี 2567 ยังไม่ได้ผ่านการพิจารณาจากรัฐสภา จึงยังไม่เห็นเม็ดเงินขั้นสุดท้าย

ทางที่สอง คือ ปีงบประมาณในแต่ละปียังคงอยู่ในกรอบเดิม งบประมาณปี 2567 มีงบรายจ่าย 3.48 ล้านล้านบาท หากเดินหน้าโครงการเงินดิจิทัลก็เป็นการเปลี่ยนงบที่ให้ราชการไปอยู่ที่มือประชาชน ซึ่งผลการกระตุ้นเศรษฐกิจมีไม่มาก เนื่องจากเป็นการใช้งบประมาณก้อนเดิม ไม่ใช่เงินก้อนใหม่

เพราะฉะนั้น หากตัดสินใจใช้เงินงบประมาณของรัฐบาล การกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น อาจไม่ได้เห็นผลอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ผู้ว่าแบงก์ชาติจึงได้เสนอ ต่อนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นการส่วนตัวว่า ให้ใช้วิธีการกู้เงิน

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ได้เปิดเผยชี้แจงเรื่องดังกล่าวหลังจากรัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรีได้แถลงสรุปความชัดเจนโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท โดยรัฐบาลจึงเลือกวิธีการโดยตรงคือ ถ้าใช้งบประมาณไม่ได้ ก็ออก พ.ร.บ.กู้เงิน ซึ่งเป็นวิธีที่ตรงไปตรงมา และต้องผ่านการพิจารณาจากรัฐสภาให้อนุมัติด้วย จึงจะบังคับใช้ได้

ปัจจัยการออกพ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้านบาทนั้น ประกอบด้วย 2 หลักการ คือ มีวิกฤติหรือไม่ และมีความจำเป็นเร่งด่วนและความต่อเนื่อง สำหรับมุมองของรัฐบาลนั้น การเติบโตเศรษฐกิจไทยยังต่ำกว่าศักยภาพ และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระดับภูมิภาคด้วย รัฐบาลจำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งโครงการเงินดิจิทัล วอลเล็ตเป็นหนึ่งในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล และแบงก์ชาติยังระบุว่าโครงการเงินดิจิทัล วอลเล็ต จะช่วยให้จีดีพีไทยโตได้ถึง 4.4% ต่อปี