รัฐมนตรีสำนักนายกฯลั่น “ทำไมตนต้องยกมือให้” สวนกระแสขอพรรคการเมืองหนุนพิธาเป็นนายก

214
0
Share:
รัฐมนตรีสำนักนายกฯ ลั่น ธนกร “ทำไมตนต้องยกมือให้” สวนกระแสขอพรรคการเมืองหนุน พิธา เป็นนายก

นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตอบคำถามผู้สื่อข่าวในเช้าวันนี้ 16 พฤษภาคม 2566 ว่า กระแสขอให้พรรคการเมืองสนับสนุนให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี มีความเป็นไปได้หรือไม่? นายธนกร กลับถามกลับว่า “ทำไมตนต้องยกมือให้ ตนไม่ได้เห็นด้วยกับนโยบายของเขา ตนเป็นหนึ่งใน 36 เสียง ที่ไม่ได้เห็นด้วยตั้งแต่แรก ฉะนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะไปยกมือให้”

นายธนกรกล่าวต่อไปว่า ควรให้รัฐบาลใหม่ได้แสดงฝีมือ เพราะเห็นตัวอย่างมาแล้วในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ที่ได้รับคะแนนท่วมท้นเหมือนกัน แล้วสุดท้ายเป็นอย่างไร เพราะฉะนั้น วันนี้เราต้องให้เกียรติประชาชน เมื่อเลือกพรรคก้าวไกลมาเยอะ ก็ต้องให้เขาแสดงฝีมือบริหารประเทศ นโยบายหลายอย่างก็ทำไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า การจัดตั้งรัฐบาล 310 เสียง จะมีความเข้มแข็งพอหรือไม่ นายธนกร ตอบว่ารัฐบาล 300 กว่าเสียง ย่อมไปได้อยู่แล้ว แต่ตนวิเคราะห์ว่ายังพอมีเวลาอยู่ พรรคเพื่อไทยแพ้แค่ 10 เสียง เขาคงให้โอกาสพรรคที่ชนะก่อน เพราะถ้าตั้งไม่ได้ พรรคอันดับ 2 ก็ตั้งได้ เหมือนรัฐบาลที่ผ่านมา แล้วตนเชื่อว่า พรรคการเมืองทุกพรรคก็ต้องคิดไปถึงสิ่งที่เป็นอันตรายต่อประเทศ เขาไม่น่าจะไปสุด ซึ่งยังมีเวลาอีก 2-3 เดือน ในการจัดตั้งรัฐบาล

ถ้าการเลือกตั้งในสภาไม่ได้ พรรคเพื่อไทยจะจัดตั้งรัฐบาลใช่หรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า ไม่ขอไปก้าวล่วงพรรค เรา 36 เสียง ก็พร้อมที่จะทำหน้าที่ฝ่ายค้าน รอให้เขาจัดตั้งไปก่อน ไม่รู้ว่าจะจบเมื่อไหร่ และ ส.ว.ก็มีแนวทาง ฉะนั้นอย่าไปดูแคลนมากเกินไป

“ส.ว.ท่านก็มีหัวจิตหัวใจ บางทีไปดูแคลนเขามากเกินไป แล้วอยู่ๆ จะให้เขาช่วยโหวตให้ ผมคิดว่ามันก็ต้องดู” นายธนกร กล่าว

“ท่านก็ตั้งให้ได้แล้วกัน ผมก็คิดว่าท่านตั้งได้ แต่สุดท้ายจะได้หรือไม่ได้ 2-3 เดือนก็รู้ ซึ่งที่ผ่านมาพรรคพวกฝ่ายค้านก็สามารถตั้งได้ พรรคอันดับ 1 ตั้งไม่ได้ อันดับ 2 ใครรวมเสียงข้างมากได้ ก็ตั้งรัฐบาลไป ก็เท่านั้นเอง” นายธนกร กล่าว

เมื่อถามว่า หากพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นอันดับ 2 จัดตั้งรัฐบาล พรรครวมไทยสร้างชาติจะไปร่วมหรือไม่ นายธนกร ระบุว่า เรื่องนี้ตนตอบแทนพรรคไม่ได้ แต่ก็คิดว่าพรรคที่ได้อันดับ 2 มีโอกาสจะตั้งรัฐบาล เพราะจากที่ดูแถลงการณ์ต่างๆ ยังไม่เห็นชัดเลยว่าจะไปด้วยกันได้ ต้องดูเงื่อนไขและเอ็มโอยูก่อน เพราะถ้าเงื่อนไขและเอ็มโอยูไปด้วยกันไม่ได้ แล้วจะไปต่อได้อย่างไร แต่ขอย้ำว่า ตนไม่ขอไปก้าวล่วงฝ่ายที่มีเสียงข้างมาก ก็ให้ว่ากันไป พวกตนได้เสียงมาไม่มากก็ว่ากันไป

นายธนกร ยังกล่าวว่า การจัดตั้งรัฐบาลเพิ่งเริ่มต้น ตนเห็นบรรยากาศคนที่เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ควรมีวุฒิภาวะมากกว่านี้ ไม่ควรพูดจาเหน็บแนม หรือกระแนะกระแหนผู้ใหญ่ของบ้านเมือง ส.ส.ลูกพรรคก็ไม่ควรเข้าร่วมหน่วยงานบางหน่วยงาน โดยใช้วาจาที่ไม่เหมาะสม เพราะการเลือกตั้งผ่านมาแล้ว ฉะนั้น หน่วยงานทหารต่างๆ ก็ไม่ควรไปกุเรื่องว่าจะเกิดเรื่องนั้นเรื่องนี้ เพราะว่าไม่จริง วันนี้กำลังจะเป็นรัฐบาล ก็ควรมีวุฒิภาวะที่มากกว่านี้ ไม่ควรไปพูดจาว่าร้ายหน่วยงานรัฐ พร้อมย้ำว่า ตนพร้อมที่จะเป็นฝ่ายค้าน และให้เกียรติว่าที่รัฐบาล ซึ่งการเมืองก็ควรว่ากันไป ไม่ควรสร้างวาทกรรมให้เกิดความขัดแย้ง โดยฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลทำงานร่วมกันได้ เพียงแต่มีคนละบทบาทหน้าที่