รัฐวิสาหกิจ-เอกชนจีน!! เบี้ยวไถ่ถอนหุ้นกู้ 6,000 ล้านดอลลาร์

839
0
Share:

บริษัท ซิงหัว ยูนิกรุ๊ป ซึ่งทำธุรกิจผลิตไมโครชิพชื่อดังของจีนแผ่นดินใหญ่ ประกาศยอมรับว่า บริษัทไม่สามารถหาเงินมาไถ่ถอนหุ้นกู้โดยเฉพาะเงินต้นมูลค่า 450 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13,950 ล้านบาท ได้ทันภายในวันนี้ ผลพวงจากการที่บริษัทดังกล่าวไม่สามารถไถ่ถอนหุ้นกู้ให้กับนักลงทุนในวันนี้ได้ ทำให้เกิดความไม่น่าเชื่อถือและไม่ไว้วางใจในสถานะบริษัทดังกล่าว เนื่องจากเป็นการเบี้ยวจ่ายหนี้ครั้งแรกของหุ้นกู้ในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
.
ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา บริษัท ซิงหัว ยูนิกรุ๊ป ไม่สามารถไถ่ถอนหุ้นกู้ของบริษัทในรูปสกุลเงินหยวน ซึ่งมีมูลค่า 1,300 ล้านหยวน หรือกว่า 6,169 ล้านบาท หุ้นกู้รายการดังกล่าวเป็นหุ้นกู้ที่เสนอขายให้นักลงทุนในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่
.
สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบตลาดตราสารหนี้ในจีนแผ่นดินใหญ่สูงถึง 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 62,000 ล้านบาท สถานทางการเงินของบริษัท ซิงหัว ยูนิกรุ๊ป มีความเปราะบางและง่อนแง่นอย่างต่อเนื่องในระยะเวลา 3 ปีผ่านมา เนื่องจากบริษัทดังกล่าวกู้เงินเป็นจำนวนมาก เพื่อไปซื้อควบรวมกิจการอื่นๆ และไปลงทุนอื่นๆ ด้านผลประกอบของบริษัทบริษัท ซิงหัว ยูนิกรุ๊ป พบว่าใน 6 เดือนแรกของปีนี้ ขาดทุนพุ่งสูงขึ้นจาก 3,200 เป็น 3,380 ล้านหยวน หรือ 16,000 – 16,900 ล้านบาท
.
ฟิทช์ เรตติ้ง ซึ่งเป็นบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือในการลงทุนชั้นนำระดับโลก เปิดเผยว่า รัฐวิสาหกิจในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ ไม่สามารถไถ่ถอนหนี้ หรือเบี้ยวไถ่ถอนหนี้ในช่วงมกราคมถึงตุลาคม 2563 เป็นมูลค่าสูงถึง 40,000 ล้านหยวน หรือกว่า 189,100 ล้านบาท ซึ่งมูลค่าดังกล่าวเท่ากับมูลค่าหุ้นกู้ที่ไม่สามารถไถ่ถอนรวมกันใน 2 ปีที่ผ่านมา
.
ปัญหาตราสารหนี้ที่รัฐวิสาหกิจ และเอกชนจีนไม่สามารถไถ่ถอนได้ตามกำหนดเวลานั้น เริ่มมีมากขึ้นในหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เริ่มจากกลุ่มบริษัท บริลเลียน ออโต้ กรุ๊ป ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับบริษัท บีเอ็มดับเบิลยู เอจี จากเยอรมนี บริษัท ซิงหัว ยูนิกรุ๊ป และยงเช็ง โคล แอนด์ อิเลคทริซิตี้ โดยมีทั้งไม่สามารถไถ่ถอนหุ้นกู้จากนักลงทุนได้ หรือประกาศล้มละลาย
.
ทั้งนี้ โนมูระ ซิเคียวริตี้ ซึ่งเป็นบริษัทหลักทรัพย์ชื่อดังระดับโลกในญี่ปุ่น คาดการณ์ว่า ภายในกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านไป บริษัทในจีนแผ่นดินใหญ่ไม่สามารถไถ่ถอนหุ้นกู้ในตลาดตราหนี้ในประเทศจีน เป็นมูลค่ารวม 178,000 ล้านหยวน หรือกว่า 890,000 ล้านบาท ในมูลค่าดังกล่าว พบว่า 43% มาจากรัฐวิสาหกิจจีนแผ่นดินใหญ่ และมีอัตราสูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ 30% ในแต่ละปี