รัฐ-เอกชนเปิดแคมเปญกระตุ้นอสังหาฯส่งท้ายปี

1437
0
Share:

คลัง-ธอส.-ภาคเอกชน เปิดตัวโครงการ”บ้านในฝัน รับปีใหม่” กระตุ้นภาคอสังหาฯช่วงท้ายปี เริ่ม 11 พฤศจิกายนนี้
.
นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ปฎิบัติงานกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังขอความร่วมมือธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ ธอส. และ3 สมาคมอสังหาฯ ประกอบด้วย สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย// สมาคมอาคารชุดไทย และสมาคมบ้านจัดสรร รวมทั้งผู้ประกอบการอสังหาฯ รายย่อย จัดทำโครงการ “บ้านในฝัน รับปีใหม่” ด้วยการออกโปรโมชั่นยิ่งใหญ่สุดอลังการส่งท้ายปี 2562
.
โดยใช้สโลแกน ซื้อปุ๊บ โอนปั๊บ รับทันที 3 สิทธิพิเศษ และหากโครงการดังกล่าวได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จะมีการพิจารณาเสนอให้นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พิจารณาขยายขอบเขตของโครงการให้ครอบคลุมที่อยู่อาศัยที่มีราคาสูงขึ้น ตั้งแต่ 4-5 ล้านบาท
.
โดยสิทธิที่ 1. กู้ ธอส. ดอกเบี้ยคงที่ 2.5% นาน 3 ปี วงเงิน 5 หมื่นล้านบาท หมดแล้วหมดเลย // สิทธิที่ 2. ฟรีทันที ค่าโอนและค่าจดจำนอง และสิทธิที่ 3. รับโปรโมขั่น ลดแลกแจกแถม พร้อมส่วนลดพิเศษสุดอลังการจากโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เข้าร่วม ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม อาคารพาณิชย์ และคอนโดมิเนียม
.
โดยกำหนดให้เฉพาะที่อยู่อาศัยวงเงินไม่เกิน 3 ล้านบาท โดยโครงการ “บ้านในฝัน รับปีใหม่” จะเริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2562 เท่านั้น
.
วัตถุประสงค์หลักเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับพี่น้องประชาชน ให้มีบ้านเป็นของตัวเอง สร้างความมั่นคงให้ครอบครัว
.
ซึ่งเป็นการส่งเสริมการออมที่มีความสำคัญประการหนึ่ง โดยตั้งเป้าอยู่ที่ 35,000 ยูนิต ซึ่งผู้ประกอบการภาคอสังหาริมทรัพย์ทุกรายสามารถเข้าร่วมโครงการได้พร้อมกันทั่วประเทศ โดยติดต่อลงทะเบียนผ่านธนาคารอาคารสงเคราะห์ที่มีสาขากระจายอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ พร้อมสามารถขอดาวน์โหลดไฟล์โครงการ “บ้านในฝัน รับปีใหม่” เพื่อทำป้ายประชาสัมพันธ์ติดหน้าโครงการได้ทันที
.
โดยคาดว่ามาตรการดังกล่าวจะส่งผลดีในระยะยาวต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ในปี 2563 ให้เติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 5%
.
ด้านนายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า มาตรการกำกับดูแลสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ หรือ LTV ของธนาคารแห่งประเทศไทย ถือเป็นมาตรการที่ดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ แต่ส่งผลให้ยอดที่อยู่อาศัยชะลอตัวลงบ้าง ตรงนี้เป็นเรื่องที่ผู้ประกอบการต้องปรับตัว
.
สำหรับโครงการดังกล่าวที่ออกมานี้ต้องรอดูว่าจะมีผลกับภาคอสังหาริมทรัพย์อย่างไร ซึ่งขณะนี้มีผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์หลักประมาณ 500 ราย ที่พร้อมเข้าร่วมโครงการดังกล่าว