รับสภาพ! บิทคับ สั่งปลดพนักงานในเครือรวมมากถึง 7% อ้างตัดลดค่าใช้จ่ายโปร่งใส เป็นธรรม

บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิงส์ จํากัด ซึ่งประกอบธุรกิจแพลทฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิตอล หรือคริปโทเคอร์เรนซี เปิดเผยชี้แจงการตัดลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจด้วยการปลดพนักงาน มีดังนี้

ตามที่ปรากฎว่ามีสื่อบางฉบับเผยแพร่ข้อมูลว่า บิทคับ มีการปรับลดจำนวนพนักงาน รวมถึงสวัสดิการบางส่วนนั้น บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ขอเรียนให้ทราบว่าเนื่องด้วยสภาพเศรษฐกิจในภาพรวมที่ผ่านมาอยู่ในช่วงขาลงและอยู่ในสภาวะซบเซา ซึ่งส่งผลต่อผู้ประกอบการธุรกิจเป็นวงกว้าง บริษัทและบริษัทในเครือ (กลุ่มบิทคับ) จึงมีแนวทางการบริหารจัดค่าใช้จ่ายของกลุ่มบิทคับ เพื่อให้ภาพรวมการบริหารจัดการธุรกิจของกลุ่มบิทคับสอดคล้องและรองรับต่อสภาวการณ์ที่เปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม บริษัทขอเรียนให้ทราบว่า การปรับจำนวนพนักงานที่เกิดขึ้นนั้นเป็นจำนวนที่น้อยเมื่อเทียบกับจำนวนพนักงานทั้งหมดในกลุ่มบิทคับ โดยสำหรับ บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด (บิทคับ ออนไลน์) นั้นมีการปรับลดอยู่ที่ 1.81% ของจำนวนพนักงานทั้งหมดในบิทคับ ออนไลน์ และ บริษัทในกลุ่มบิทคับอื่นมีการปรับลดอยู่ที่ 5.47% ของจำนวนพนักงานทั้งหมดในกลุ่มบิทคับ (นอกเหนือจากบิทคับออนไลน์) อีกทั้ง การปรับลดความช่วยเหลือตามที่กล่าวอ้างในสื่อบางฉบับนั้น เป็นเพียงการปรับลดความช่วยเหลือเพียงส่วนเดียวจากความช่วยเหลือที่บริษัทให้แก่พนักงาน

ทั้งนี้ กลุ่มบิทคับได้มีการบริหารจัดการ รวมถึงพิจารณาแนวทางการปรับลดค่าใช้จ่ายของกลุ่มบิทคับด้วยความสุจริต โปร่งใส และคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมถึงพนักงานเป็นสำคัญมาโดยตลอด โดยกลุ่มบิทคับได้พิจารณาถึงแนวทางการดำเนินการที่จะส่งผลกระทบต่อพนักงานให้น้อยที่สุด แต่เนื่องด้วยสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นผลจากปัจจัยภายนอก ซึ่งผู้ประกอบการธุรกิจหลายรายอาจะได้รับผลกระทบในทำนองเดียวกันซึ่งบริษัทอยู่ในระหว่างติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

อย่างไรก็ดี บริษัทขอเรียนว่า กลุ่มบิทคับจะยังคงยึดมั่นหลักการในการกำกับดูแลกิจการที่ดีและคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกค้าผู้มีอุปการะคุณทุกท่านและพนักงานของเรา บริษัทขอให้ทุกท่านโปรดเชื่อมั่นในการประกอบธุรกิจของกลุ่มบิทคับ

ทั้งนี้ บิทคับ ต้องเผชิญกับภาวะตลาดเงินคริปโทเคอร์เรนซีตกต่ำอย่างรุนแรงทั่วโลก และตลาดซื้อขายเงินคริปโทในประเทศไทยที่ซบเซาอย่างต่อเนื่อง สาเหตุจากนักลงทุนล้วนถอนการลงทุนจากตลาดดังกล่าวที่มีความเสี่ยงสูงมาก และขาดความน่าเชื่อถือในการลงทุน ซึ่งเป็นผลจากภาวะธุรกิจเงินคริปโทเคอร์เรนซีถูกกวาดล้างครั้งใหญ่ในหลายประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ บิทคับ ออนไลน์ประสบความล้มเหลวในการดำเนินกิจการที่เดิมที่คาดหวังว่าจะมีนักลงทุนรายใหญ่เข้ามาร่วมลงทุนด้วย โดยเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2022 บริษัท SCBX ได้ยกเลิกการเสนอซื้อหุ้น 51% ของบิทคับออนไลน์ รวมมูลค่า 17,850 ล้านบาท เป็นการปิดฉากความหวังในการเป็นบริษัทเทคโนโลยีสัญชาติไทยที่จะยกระดับมูลค่าการลงทุนขึ้นชั้นยูนิคอร์น