ราคาข้าวตลาดโลกจ่อพุ่งทะยานขึ้นอีก หากไทยลดปริมาณเพาะปลูก ตามแผนบริหารน้ำหน้าแล้ง

157
0
Share:
ราคา ข้าว ตลาดโลก จ่อพุ่งทะยานขึ้นอีก หากไทยลดปริมาณเพาะปลูก ตามแผนบริหารน้ำหน้าแล้ง

รายงานจากสำนักข่าวซีเอ็นบีซี เปิดเผยว่า ประเทศไทยซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก กำลังเรียกร้องให้เกษตรกรภายในประเทศเพาะปลูกข้าวให้น้อยลงเพื่อสงวนน้ำไว้ใช้ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะยิ่งส่งผลกระทบต่อตลาดข้าวทั่วโลก หลังจากที่อินเดียสั่งระงับการส่งออกข้าวเมื่อไม่นานมานี้แล้ว เนื่องจากขณะนี้ไทยกำลังเผชิญกับภาวะปริมาณน้ำฝนอยู่ในระดับต่ำ และเพื่อเป็นการสงวนน้ำไว้ใช้สำหรับการอุปโภคบริโภค ทางสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) จึงได้เรียกร้องให้เกษตรกรหันไปเพาะปลูกพืชอื่นๆ ที่ใช้น้ำน้อยกว่า และสามารถเก็บเกี่ยวได้อย่างรวดเร็ว

เมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลอินเดียประกาศห้ามส่งออกข้าวขาวไม่ใช่พันธุ์บาสมาติ (Basmati) เนื่องจากรัฐบาลอินเดียต้องการควบคุมราคาอาหารที่พุ่งสูงขึ้นภายในประเทศ และรับประกันว่าจะมีปริมาณข้าวราคาเหมาะสมเพียงพอภายในประเทศ โดยการส่งออกข้าวของอินเดียคิดเป็นสัดส่วนกว่า 40% ของการค้าข้าวทั่วโลก และคาดว่าคำสั่งห้ามส่งออกข้าวของอินเดียจะส่งผลกระทบต่อประชาชนหลายล้านคนทั่วโลก

นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการ สทนช.กล่าวว่า ปริมาณน้ำฝนในขณะนี้อยู่ต่ำกว่าระดับปกติประมาณ 40% ซึ่งมีความเสี่ยงสูงว่าจะเกิดปัญหาขาดแคลนน้ำ ซึ่งการบริหารจัดการน้ำของไทยนั้น จำเป็นต้องมุ่งเน้นไปที่ “น้ำสำหรับการอุปโภคบริโภค” และ “น้ำสำหรับการเพาะปลูกพืชยืนต้นที่มีอายุยืนนานหลายปี (perennial crops)”

ทั้งนี้ พืชที่มีอายุยืนนานหลายปี หมายถึงพืชที่สามารถเติบโตได้อีกหลังการเก็บเกี่ยว และไม่จำเป็นต้องปลูกขึ้นใหม่ในทุกๆ ปี ไม่เหมือนกับบรรดาพืชล้มลุก (annual crops) โดยข้าวได้ถูกจัดอยู่ในหมวดของพืชล้มลุกด้วย ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วการปลูกข้าวทุก 1 กิโลกรัมนั้น จะต้องใช้น้ำประมาณ 2,500 ลิตร เมื่อเทียบกับการเพาะปลูกพืชทางเลือกอื่นๆ ในปริมาณ 1 กิโลกรัมที่ใช้น้ำเพียง 650-1,200 ลิตร

นายออสการ์ จาครา นักวิเคราะห์อาวุโสจากบริษัทโรโบแบงก์เปิดเผยว่าราคาข้าวทั่วโลกมีแนวโน้มพุ่งขึ้นอีก เมื่อพิจารณาจากโอกาสที่ไทยจะลดการผลิตข้าวลงอย่างมีนัยสำคัญ เพราะขณะนี้อยู่ในระดับที่สูงมาก