ราคาทองคำโลกปิดขึ้นกว่า 12 ดอลล์ ปิดเหนือ 1,950 ดอลล์ ดอลลาร์อ่อน รอเงินเฟ้อสหรัฐ

117
0
Share:
ราคา ทองคำโลก ปิดขึ้นกว่า 12 ดอลล์ ปิดเหนือ 1,950 ดอลล์ ดอลลาร์อ่อน รอเงินเฟ้อสหรัฐ

ตลาดซื้อขายทองคำโลก นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2023 ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา พบว่า ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 1,945.89 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +9.80 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.47% ขณะที่ราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ระดับ 1,950.20 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +12.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.6%

ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาทองคำตลาดโลกปิดลดลง -2.8% และปิดลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 ต่อเนื่อง และทำสถิติราคาทองคำรายสัปดาห์ที่ตกต่ำมากที่สุดใน 6 สัปดาห์ผ่านมา

ทั้งนี้ในเดือนตุลาคม พบว่าราคาทองคำตลาดโลกพุ่งทะยานขึ้นถึง 8% โดยนับตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันแรกที่กลุ่มฮามาสติดอาวุธเปิดฉากโจมตีอิสราเอลจนนำไปสู่สงครามรุนแรงในรอบ 75 ปีของทั้ง 2 ฝ่าย ทำให้ราคาทองคำโลกพุ่งทะยานขึ้นถึง 190.70 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ เนื่องจากราคาทองคำตลาดโลกเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2023 อยู่ที่ระดับ 1,809.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติราคาต่ำสุดในรอบ 7 เดือน

เมื่อกลางเดือนเมษายนปี 2023 ผ่านไป ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาปิดสูงสุดในรอบ 1 ปีที่ 2,048.71 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จากวิกฤตธนาคารเอสวีบี และเอสบี ปิดกิจการและถูกควบคุมโดยทางการสหรัฐอเมริกา

ย้อนกลับไปในปี 2022 ผ่านไปเมื่อเดือนมีนาคม พบว่าราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.49 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐลดต่ำลง 0.1% ขณะที่ นักลงทุนรอฟังตัวเลขเงินเฟ้อผู้บริโภคและเงินเฟ้อผู้ผลิตเดือนตุลาคมของสหรัฐที่จะประกาศในคืนวันนี้และคืนวันพรุ่งนี้ โดยคาดการณ์ว่า ตัวเลขเงินเฟ้อผู้บริโภคจะเพิ่มขึ้น 0.3% เทียบกับเดือนก่อนนั้น และคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 4.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีผ่านมา

สถานการณ์การสู้รบระหว่างประเทศอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสติดอาวุธเริ่มมีสัญญาณคลายความรุนแรง หลังจากอิสราเอลประกาศระยะเวลาหยุดยิงชั่วคราว 4 ชั่วโมงใน 1 วัน เพื่อให้การส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปในฉนวนกาซา

ขณะที่ ตัวชี้วัดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า โอกาสไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นในการประชุมสิ้นเดือนธันวาคมนี้อยู่ที่ 91% จากเดิมที่โอกาสไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นอยู่ที่ 90% ขณะเดียวกัน โอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟดในการประชุมต้นเดือนมิถุนายนปี 2024 นี้อยู่ที่ 42%