ราคาทองคำโลกปิดทะยานเฉียด 30 ดอลล์ ขึ้นเหนือ 2,040 รวมขึ้น 4 วันรวมกว่า 50 ดอลลาร์

184
0
Share:
ราคา ทองคำโลก ปิดทะยานเฉียด 30 ดอลล์ ขึ้นเหนือ 2,040 รวมขึ้น 4 วันรวมกว่า 50 ดอลลาร์

ตลาดซื้อขายทองคำโลก นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2023 ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา พบว่า ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 2,040.87 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +28.53 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +1.38% ส่งผลราคาทองคำปิดขึ้น 4 วันติดกันรวม 49.71 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +2.68%

ขณะที่ราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ระดับ 2,040 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +29.60 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +1.47% ส่งผลราคาทองคำปิดขึ้น 4 วันติดกันรวม 50.70 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +3.67%

ดังนั้น ราคาทองคำตลาดโลกทำสถิติปิดสูงสุดในรอบ 6 เดือนกว่า หรือตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคมเป็นต้นมา

ทั้งนี้ในเดือนตุลาคม พบว่าราคาทองคำตลาดโลกพุ่งทะยานขึ้นถึง 8% โดยนับตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันแรกที่กลุ่มฮามาสติดอาวุธเปิดฉากโจมตีอิสราเอลจนนำไปสู่สงครามรุนแรงในรอบ 75 ปีของทั้ง 2 ฝ่าย ทำให้ราคาทองคำโลกพุ่งทะยานขึ้นถึง 190.70 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ เนื่องจากราคาทองคำตลาดโลกเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2023 อยู่ที่ระดับ 1,809.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติราคาต่ำสุดในรอบ 7 เดือน

เมื่อกลางเดือนเมษายนปี 2023 ผ่านไป ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาปิดสูงสุดในรอบ 1 ปีที่ 2,048.71 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จากวิกฤตธนาคารเอสวีบี และเอสบี ปิดกิจการและถูกควบคุมโดยทางการสหรัฐอเมริกา

ย้อนกลับไปในปี 2022 ผ่านไปเมื่อเดือนมีนาคม พบว่าราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.49 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์

สาเหตุจากผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ กล่าวว่า มั่นใจมากขึ้นว่าเฟดได้ดำเนินนโยบายมาถูกทาง และตรงจุดแล้ว ด้านค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.5% ทำสถิติต่ำสุดในรอบเกือบ 3 เดือน ครึ่ง หรือตั้งแต่กลางสิงหาคมผ่านมา ซึ่งเป็นผลจากการประเมินแนวโน้มรอบการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอาจจบสิ้นแล้ว นอกจากนี้ ยังคาดการณ์ว่ามีโอกาสครึ่งต่อครึ่งที่เฟดจะลดดอกเบี้ยดังกล่าวครั้งแรกในต้นเดือนพฤษภาคมปี 2024

ขณะที่ ตัวชี้วัดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า โอกาสไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นในการประชุมสิ้นเดือนธันวาคมนี้อยู่ที่ 100% จากเดิมที่โอกาสไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นอยู่ที่ 91% ขณะเดียวกัน โอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟดในการประชุมต้นเดือนมิถุนายนปี 2024 นี้อยู่ที่ 42%