ราคาทองคำโลกพุ่งกระชากกว่า 60 ดอลลาร์ในวันเดียว ดันขึ้นปิดเหนือ 1,940 ดอลลาร์

165
0
Share:
ราคา ทองคำโลก พุ่งกระชากกว่า 60 ดอลลาร์ในวันเดียว ดันขึ้นปิดเหนือ 1,940 ดอลลาร์

ตลาดซื้อขายทองคำโลก นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2023 ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา พบว่า ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 1,929.21 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +60.62 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +3.24%

ขณะที่ราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ระดับ 1,941.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +58.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +3.1% ทำสถิติราคาทองคำล่วงหน้าปิดสูงสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ ในสัปดาห์นี้ ราคาทองคำตลาดโลกพุ่งขึ้น +5.2% และเป็นสัปดาห์ที่ดีที่สุดใน 7 สัปดาห์ผ่านมา

ก่อนหน้านี้ ราคาทองคำตกต่ำถึง 9 วันติดต่อกันผ่านมา ซึ่งดำดิ่ง 9 วันติดต่อกันมากกว่า 106 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำให้ก่อนหน้านี้ ราคาทองคำปิดลงต่ำสุดในรอบเกือบ 7 เดือน หรือนับตั้งแต่วันที่ 10 เดือนมีนาคมเป็นต้นมา

นอกจากนี้ ในเดือนกันยายน พบว่าราคาทองคำตลาดโลกร่วงลง -4.6% หรือดำดิ่งมากถึง 99 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ สอดคล้องกับราคาทองคำรายไตรมาส ปิดร่วงลง -3.6% ที่สำคัญ นับตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมเป็นต้นมา ซึ่งทองคำมีราคาเหนือระดับ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์นั้น ราคาทองคำตลาดโลกดำดิ่งลงเหวถึง 230 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือทรุดลงหนักกว่า -11%

เมื่อกลางเดือนเมษายนปี 2023 ผ่านไป ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาปิดสูงสุดในรอบ 1 ปีที่ 2,048.71 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จากวิกฤตธนาคารเอสวีบี และเอสบี ปิดกิจการและถูกควบคุมโดยทางการสหรัฐอเมริกา

ย้อนกลับไปในปี 2022 ผ่านไปเมื่อเดือนมีนาคม พบว่าราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.49 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์

สาเหตุจากสถานการณ์การสู้รบระหว่างประเทศอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสติดอาวุธที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงในรอบ 50 ปี ได้สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนรอบใหม่ เนื่องจากนายกรัฐมนตรีอิสราเอลประกาศใช้กำลังทหารบกเข้าสู้รบกวาดล้างกลุ่มฮามาสติดอาวุธทุกคนในฉนวนกาซาชนิดถอนรากถอนโคน โดยกำหนดเวลาให้พลเรือนจำนวน 1.1 ล้านคนรีบอพยพออกจากฉนวนกาซาภายในไม่เกิน 24 ชั่วโมงผ่านมา การตอบโต้ด้วยปฏิบัติการดังกล่าวทำให้นักลงทุนเข้าโถมซื้อทองคำอย่างคึกคักและหนาตาซึ่งมักเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยที่สุดท่ามกลางวิกฤตการณ์รุนแรงต่างๆ

นอกจากนี้ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 0.4% ซึ่งสูงกว่าที่คาดไว้เล็กน้อยที่ 0.3% และเพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคมที่ระดับ 0.3% นั้น แต่เงินเฟ้อขั้นพื้นฐานในเดือนเดียวกันกลับไม่สูงไปกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทำให้นักลงทุนทองคำประเมินว่าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด อาจถึงจุดสูงสุดแล้ว ส่งผลลดแรงกดดันต่อแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารสหรัฐอเมริกา หรือเฟด

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนรอประเมินกระแสข่าวก่อนถึงการประชุมของธนาคารสหรัฐอเมริกาในวันที่ 31 ตุลาคมถึงวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ขณะที่ ตัวชี้วัดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า โอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นในการประชุมเดือนธันวาคมอยู่ที่ 38% จากเดิมที่โอกาสขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นอยู่ที่ 28%