ราคาทองคำในประเทศวันนี้ปรับไปแล้ว 4 ครั้ง ล่าสุดรูปพรรณยังยืนเหนือ 30,000 บาท
สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาทอง 96.5% ประจำวันที่ 29 กันยายน 2565 เวลา 12:41 น. (ครั้งที่ 4) ราคาปรับลดลง 50 บาท โดยทองคำแท่ง 96.5% ขายออก 29,700.00 บาท รับซื้อ 29,600.00 บาท ส่วนทองรูปพรรณ 96.5% ขายออก 30,200.00 บาท รับซื้อ (ฐานภาษี) 29,061.72 บาท
โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาสมาคมค้าทองคำรายงานว่า ราคาทองไทย ครั้งที่ 1 เมื่อเวลา 09.23 น. ราคาทองปรับขึ้น 350 บาท ส่งผลให้ “ทองคำแท่ง” รับซื้อบาทละ 29,650 ขายออกบาทละ 29,750 บาท ส่วน “ทองรูปพรรณ” รับซื้อบาทละ 29,122.36 ขายออกบาทละ 30,250 บาท
ทั้งนี้บจ.เอ็มทีเอส แคปปิตอล คาดว่าราคาทองคํามีความผันผวนค่อนข้างมากเช่นเดียวกับความผันผวนของค่าเงินบาท และอัตราแลกเปลี่ยนใน ตลาด หลังจากที่ธนาคารกลางอังกฤษประกาศซื้อพันธบัตรรัฐบาลไม่จํากัดจํานวน ซึ่งส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์ กลับมาอ่อนค่า และทําให้ดัชนีดาวโจนส์ รวมถึงตลาดหุ้นต่างๆ ปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและปรับขึ้นค่อนข้าง มากในเมื่อวานนี้
เช่นเดียวกับราคาทองคําที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่ค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าอย่าง มากจากระดับเมื่อวานนี้ที่บริเวณ 38.40 บาทต่อดอลลาร์ ก่อนราคาจะปรับตัวลงมาปิดที่ 37.71 บาทต่อ ดอลลาร์ ถือเป็นความผันผวนที่สูงสําหรับการเคลื่อนไหวในระยะเวลาคืนเดียวประมาณ 60 สตางค์ต่อดอลลาร์
ขณะที่ราคาทองคําปรับตัวสูงขึ้นอย่างมากเช่นเดียวกันหลังจากลงไปทําจุดตํ่าสุดที่บริเวณ 1,614 เหรียญ และ ดีดกลับขึ้นมาปิดที่ 1,659 เหรียญ โดยความผันผวนดังกล่าวมาจากตลาดการเงิน และการที่ธนาคารกลาง อังกฤษประกาศซื้อพันธบัตรรัฐบาล ด้านกองทุนทองคํา SPDR เมื่อวานนี้ไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองเท่า เดิมที่ 940.86 ตัน ภาพรวมตัวเลขเศรษฐกิจทั่วไปอยู่ในเกณฑ์ทรงตัวไม่ได้รับผลกระทบใดๆ
สําหรับในไทย คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประกาศปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% จาก 0.75% เป็น 1.00% ขณะที่แบงก์ ชาติออกมาแถลงถึงภาพรวมของเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในช่วงกําลังฟื้ นตัว และจําเป็นต้องวิเคราะห์ภาพหลัก ของเศรษฐกิจไทยในองค์รวม โดยการปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ถือเป็นมติเป็นเอกฉันท์ ส่งผลให้ค่าเงินบาท ปรับตัวอ่อนค่าอย่างรวดเร็วขึ้นไปที่ 38.46 บาทต่อดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม จากแรงเทขายและความผันผวนใน ตลาดการเงินช่วงคํ่าคืน ทําให้ค่าเงินบาทแข็งค่าลงอย่างรวดเร็วมาก สําหรับตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ตลาดไม่ได้ให้ความสําคัญเท่าไรนัก เพราะส่วนใหญ่เป็นไปตามที่คาด
