ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกจ่อพุ่ง 125 ดอลลาร์ในปีนี้ ตลาดเอเชียวันนี้ยืนเหนือ 87 ดอลลาร์

491
0
Share:
น้ำมันดิบ

ธนาคารเจพี มอร์แกน ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ชื่อดังระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา เปิดเผยมุมมองที่มีต่อแนวโน้มราคาน้ำมันดิบตลาดโลกในปี 2565 และปี 2566 ว่า สถานการณ์ตลาดน้ำมันดิบโลกยังคงเป็นขาขึ้นต่อเนื่องจากปี 2564 ทำให้คาดการณ์ว่า ระดับราคาน้ำมันดิบตลาดโลกจะทะยานขึ้นถึง 125 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรลในปีนี้ ส่วนในปี 2566 ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกจะพุ่งขึ้นต่อเนื่องไปที่ระดับ 150 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ในตันสัปดาห์นี้ ธนาคารโกลด์แมน แซคส์ ซึ่งเป็นธนาคารชื่อดังระดับโลกอีกแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกจะเคลื่อนไหวไปถึง 100 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรลในช่วงกลางปีนี้ ประกอบด้วย สิ้นไตรมาสที่ 1 ราคาจะอยู่ที่ 90 ดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงไตรมาสที่ 2 จะขึ้นไปเคลื่อนไหวที่ 95 ดอลลาร์สหรัฐ และแตะ 100 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงที่เหลือของปี 2565

สำหรับราคาน้ำมันดิบตลาดโลก นับตั้งแต่ต้นปีนี้ โดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ทะยานขึ้นกว่า 14% ซึ่งทะยานขึ้นต่อเนื่องจากในปี 2564 ที่พุ่งสูงถึง 50%

ขณะที่วันนี้ 20 มกราคม 2565 ตลาดซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าในเอเชียที่ประเทศสิงคโปร์ รายงานว่า เมื่อเวลา 11.30 น.(เวลาไทย) ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ พุ่งขึ้นมาเคลื่อนไหวที่ 87.03 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.07 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ +1% โดยเมื่อวานนี้ มีราคาสูงสุดระหว่างพุ่งแตะ 87.91 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ สหรัฐ ทำสถิติสูงสุดในรอบ 8 ปี หรือนับตั้งแต่วันที่ 9 ตุลาคม 2014 เป็นต้นมา

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ในตลาดเอเชียเวลาเดียวกัน มีราคาทะยานขึ้นมาเคลื่อนไหวที่ 88.27 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.17 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.2% โดยเมื่อวานนี้ มีราคาสูงสุดระหว่างพุ่งแตะ 89.17 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทำสถิติสูงสุดในรอบ 8 ปี หรือนับตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม 2014 เป็นต้นมา

สาเหตุจากท่อส่งน้ำมันดิบจากประเทศอิรักไปยังประเทศตุรกีเกิดระเบิดโดยไม่ทราบสาเหตุ ส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำมันดิบที่ส่งออกจากอิรัก ซึ่งยังไม่สามารถระบุปริมาณที่ได้รับผลกระทบได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ สถานการณ์รุนแรงในภูมิภาคตะวันออกกลาง และยุโรปฝั่งตะวันออก โดยกลุ่มนักรบฮูติในประเทศเยเมน เปิดเผยว่า ได้ใช้ปฏิบัติการอากาษยานไร้คนขับ หรือโดรน เข้าโจมตีประเทศสหรัฐ อาหรับ เอมิเรตส์ หรือยูเออี ซึ่งประเทศยูเออีเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่อันดับ 3 ของกลุ่มโอเปก การโจมตีดังกล่าวทำให้เกิดเพลิงไหม้บริเวณรอบนอกของกรุงอาบู ดาบี พบผู้เสียชีวิตไม่น้อยกว่า 3 ราย

นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันดิบตึงตัวจากกำลังการผลิต แม้ว่ากลุ่มโอเปกพลัสจะมีมติเพิ่มกำลังการผลิต 400,000 บาร์เรลในเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไปก็ตาม และสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศในยูเครนกับรัสเซียที่อาจทวีความรุนแรงขึ้น โดยรัฐบาลสหรัฐอเมริกาเปิดเผยว่า รัสเซียเตรียมใช้กำลังทหารเข้าโจมตีประเทศยูเครนภายใน 30 วันข้างหน้านึ้ หากการเจรจาทางการทูตล้มเหลว โดยความตึงเครียดของทั้ง 2 ประเทศสะสมมาตั้งแต่ธันวาคมปีที่แล้ว

ในสัปดาห์ที่ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกทำสถิติสูงสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 แห่ง พุ่งทะยานขึ้น 6.3% และ 5.4% ตามลำดับ

นายดัก คิง เทรดเดอร์จากกองทุนประกันความเสี่ยง หรือเฮ็ดจ์ฟันด์ ที่มีชื่อว่าคิงในกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ซึ่งบริหารสร้างผลตอบแทนการลงทุนจากตลาดสินค้าโภคภัณฑ์สูงถึง 74% ในปีที่ผ่านไป เปิดเผยว่า ในปี 2564 ราคาน้ำมันดิบพุ่งกว่า 50% ในปีนี้เป็นต้นมา ราคาน้ำมันดิบจะปรับเพิ่มขึ้นไปแล้ว 10% ในเร็วๆนี้ ราคาน้ำมันดิบจะเคลื่อนไหวถึง 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ในอีก 5 ปี จะมีราคาไปถึง 200 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จากปัจจัยการขาดแคลนการลงทุน และการสำรวจ

นายโดมินิก ชไนเดอร์ หัวหน้าสายงานบริหารความมั่งคั่ง ธนาคารยูโอบี เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกกำลังเคลื่อนไหวไปที่ระดับ 90 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งในปีนี้ให้ลดน้ำหนักในตลาดทองคำ หันเข้าไปลงทุนเพิ่มในตลาดพลังงาน

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศไทยได้ปรับเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องนับตั้งแต่ปีใหม่เป็นต้นมา ปตท.และบางจาก ได้ปรับขึ้นราคาน้ำมันขายปลีกรวม 4 ครั้งนับตั้งแต่ต้นปีนี้ ทำให้ราคาขายปลีกกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ปรับขึ้น 1.50 บาทต่อลิตร ขณะที่กลุ่มดีเซลปรับขึ้น 1.40 บาทต่อลิตร ในขณะที่ช่วงเช้าวันที่ 18 มกราคม 2565 ปั้มน้ำมันเชลล์ปรับราคาน้ำมันขายปลีกทุกชนิดเพิ่มขึ้น 20 สตางค์ต่อลิตร นับเป็นการปรับราคาทั้งหมด 5 ครั้งตั้งแต่ต้นปีนี้