ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกปิดร่วงเหลือกว่า 84 ดอลล์ คาดดอกเบี้ยสหรัฐ-อังกฤษ หยุดนิ่งในปีนี้

111
0
Share:
ราคา น้ำมันดิบ ตลาดโลกปิดร่วงเหลือกว่า 84 ดอลล์ คาดดอกเบี้ยสหรัฐ-อังกฤษ หยุดนิ่งในปีนี้

ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2023 ที่ผ่านไป พบว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 80.51 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.95 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -2.4% ในสัปดาห์นี้ ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ปิดร่วงลงแรงถึง -6%

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ สหรัฐอเมริกา พุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 84.89 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.92 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -2.3% ในสัปดาห์นี้ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ปิดร่วงลงแรงถึง -6%

ในปี 2022 ผ่านไปราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

สาเหตุจากดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง -0.1% และผลตอบพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ลดลงทำสถิติต่ำสุดในรอบกว่า 1 เดือน หลังจากตัวเลขการจ้างงานชาวอเมริกันนอกภาคกาคเกษตรเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้นเพียง 150,000 คน ซึ่งต่ำกว่าที่คาดไว้ว่าจะมีถึง 180,000 คน ทำให้แรงกดดันต่ออัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาลดลงต่อเนื่อง ซึ่งจะมีการประชุมครั้งสุดท้ายของปีนี้ในเดือนธันวาคม

เมื่อวานนี้ ธนาคารอังกฤษตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ 5.25% สูงสุดในรอบ 15 ปี เป็นครั้งที่ 2 ต่อเนื่อง หลังจากปรับขึ้นถึง 14 ครั้งติดต่อกัน และหลังจากธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาตรึงดอกเบี้ยระยะสั้นที่ 5.25% ถึง 5.50% สูงสุดในรอบ 22 ปี เป็นครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนผ่านมา สะท้อนแนวโน้มดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสำคัญของโลกหยุดนิ่งชัดเจนขึ้น

ท่ามกลางความหวั่นกลัวสงครามจะขยายวงกว้าง ขณะที่สงครามอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสที่รุนแรงต่อเนื่องจะกระทบต่อปริมาณการผลิตและส่งออกน้ำมันดิบจากตะวันออกกลาง