ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกพุ่งสูงสุดแตะ 97 ดอลล์ ก่อนปิดตลาดเหนือ 96 ดอลล์ พุ่งกว่า 3 ดอลล์

141
0
Share:
ราคา น้ำมันดิบ ตลาดโลกพุ่งสูงสุดแตะ 97 ดอลล์ ก่อนปิดตลาดเหนือ 96 ดอลล์ พุ่งกว่า 3 ดอลล์

ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2023 ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา พบว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 93.68 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +3.29 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +3.6% โดยมีราคาสูงสุดระหว่างวันที่ 94 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ส่งผลให้เป็นราคาน้ำมันดิบปรับขึ้น 2 วันติดกันรวม 4 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +4.4%

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ สหรัฐอเมริกา พุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 96.55 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +2.59 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +2.8% โดยมีราคาสูงสุดระหว่างวันที่ 97 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ส่งผลให้เป็นราคาน้ำมันดิบปรับขึ้น 2 วันติดกันรวม 3.26 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +2.8% ส่งผลเป็นสถิติราคาน้ำมันดิบใกล้สูงสุดในรอบ 10 เดือน หรือตั้งแต่พฤศจิกายนปี 2022

ในปี 2022 ผ่านไปราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

สาเหตุปริมาณสำรองน้ำมันดิบรายสัปดาห์ในสหรัฐอเมริกาลดลงมากถึง
2.2 ล้านบาร์เรล ซึ่งลดลงอย่างมากกว่าที่ประเมินไว้ที่ 320,000 บาร์เรล ในขณะที่ นักลงทุนยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะตลาดน้ำมันดิบตึงตัว หลังจากกลุ่มโอเปกพลัสเปิดเผยรายงานสถานการณ์น้ำมันดิบประจำเดือน พบว่า ประเมินความต้องการบริโภคน้ำมันดิบทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นอีกวันละ 2.24 ล้านบาร์เรลในปีนี้ ในขณะที่ประเมินปีหน้า 2024 ทั้งความต้องการบริโภคจะเพิ่มขึ้น 2.25 ล้านบาร์เรล และปริมานการผลิตน้ำมันดิบทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากประเมินสัญญาณฟื้นตัวของประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่

อีไอเอ ยังคาดการณ์ต่อไปว่า สต็อกน้ำมันดิบทั่วโลกจะลดลงถึงเกือบ 500,000 บาร์เรลต่อวันในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ส่งผลให้ประเมินราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ จะมีราคาเฉลี่ยในไตรมาสที่ 4 ปีนี้ สูงถึง 93 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนักปัจจัยซาอุดีอาระเบียประกาศลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบต่อเนื่อง โดยลดผลิตลงวันละ 1 ล้านบาร์เรลอีก 3 เดือน มีผลตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงธันวาคม 2023 สอดคลัองกับรัฐบาลประเทศรัสเซียประกาศลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบต่อเนื่อง โดยลดผลิตลงวันละ 300,000 บาร์เรลอีก 3 เดือน มีผลตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงธันวาคม 2023 เช่นเดียวกัน ส่งผลให้ปริมาณน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกพลัสจะลดลงถึงวันละ 1.3 ล้านบาร์เรลนับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2023

การประกาศลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบของซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบมากที่สุดในโลก และรัสเซียซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบนอกกลุ่มโอเปกที่มากที่สุดในโลก รวมกันวันละ 1.3 ล้านบาร์เรลต่อไปอีก 3 เดือน กลายเป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมายของตลาดพลังงานโลก เนื่องจากเดิมคาดการณ์ว่าทั้ง 2 ประเทศจะลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบถึงเดือนตุลาคมเท่านั้น