ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกพุ่งเฉียด 2% ปิดเหนือ 91 ดอลลาร์ สูงสุดในกว่า 2 สัปดาห์

ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2023 ที่ผ่านไป พบว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 88.32 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.66 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.9% ทำสถิติราคาปิดสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ผ่านมา

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ สหรัฐอเมริกา พุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 91.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.60 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.60 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.8% ส่งผลราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ปิดเพิ่มขึ้น 2 วันติดต่อกันรวม +1.85 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาปิดสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ผ่านมา

ในปี 2022 ผ่านไปราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกทั้ง 2 แห่ง ปิดพุ่งทะยานถึง +5.9% และ +7.9% ตามลำดับ ส่งผลทำสถิติราคาปิดรายสัปดาห์ที่มากที่สุดในรอบ 7 เดือนกว่า หรือตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมา

สาเหตุจากปริมาณสำรองน้ำมันดิบรายสัปดาห์ในสหรัฐอเมริกาลดลงมากถึง 4.5 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ว่าจะลดลงเพียง 300,000 บาร์เรล นับเป็นปริมาณสำรองน้ำมันดิบรายสัปดาห์ที่ลดลงถึง 4 สัปดาห์ติดต่อกัน

ขณะที่รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ อิหร่าน เสนอให้มีการใช้มาตราคว่ำบาตรอิสราเอลด้วยการห้ามอิสราเอลส่งออกน้ำมันดิบ หลังเกิดเหตุการณ์รุนแรงที่โรงพยาบาลถูกยิงถล่มด้วยจรวดส่งผลมีผู้เสียชีวิตมากถึง 500 ราย อย่างไรก็ตาม สหรัฐอเมริกาโดยประธานาธิบดีนายโจ ไบเดน เดินทางถึงอิสราเอลและแถลงยืนยันพร้อมสนับสนุนทุกอย่างเต็มที่ให้กับอิสราเอล ที่สำคัญ ยืนยันว่าเหตุการณ์ยิงจรวดถล่มโรงพยาบาลเป็นการกระทำของอีกฝ่าย เนื่องจากทั้งสหรัฐและอิสราเอลมีหลักฐานชัดเจน

ด้านรัฐมนตรีการะทรวงน้ำมัน ประเทศอิหร่าน นายจาวัด โอวจิ กล่าวว่าราคาน้ำมันดิบอาจสูุงถึง 100 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล เนื่องจากสถานการณ์สู้รบรุนแรงในปัจจุบันทั่วบริเวณฉนวนกาซา