ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้น เบรนท์ขยับขึ้นแตะ 96.51 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังดอลลาร์อ่อนค่าลง

283
0
Share:
ราคาน้ำมันดิบ พุ่งขึ้น เบรนท์ ขยับขึ้นแตะ 96.51 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังดอลลาร์อ่อนค่าลง

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นในวันศุกร์ เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงและความเสี่ยงด้านกำลังการผลิตยังคงคลี่คลาย แม้ว่าความกลัวภาวะถดถอยและการระบาดของโควิด-19 ของจีนยังคงส่งผลกระทบราคาอยู่

โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์เพิ่มขึ้น 1.84 ดอลลาร์ หรือ 1.9% สู่ 96.51 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลที่ 0740 GMT สัญญานี้มุ่งสู่การไต่ระดับรายสัปดาห์ที่มากกว่า 0.5% ส่วนราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า West Texas Intermediate (WTI) ของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.94 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ที่ 90.11 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยเพิ่มขึ้นมากกว่า 2% ทุกสัปดาห์ ซึ่งสัญญาทั้งสองเพิ่มขึ้นเมื่อเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงช่วยกระตุ้นอุปสงค์น้ำมันเนื่องจากทำให้สินค้าโภคภัณฑ์มีราคาถูกลงสำหรับผู้ที่ถือสกุลเงินอื่น

ขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ส่งผลกระทบต่อตลาด แต่คาดว่าอุปทานจะยังคงตึงตัว โดยยุโรปจะมีการสั่งห้ามนำเข้าน้ำมันของรัสเซียในเร็วๆ นี้ และสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ลดลง

ทั้งนี้การปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่ม OPEC+ ได้ให้เสถียรภาพแก่ตลาดในระยะสั้น แม้ว่าจะมีแนวโน้มว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อการห้ามใช้น้ำมันรัสเซียของสหภาพยุโรปมีผลใช้บังคับในเดือนหน้าสำหรับน้ำมันดิบ และในเดือนกุมภาพันธ์สำหรับผลิตภัณฑ์กลั่น

ความกังวลจะเกิดภาวะถดถอยในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก เพิ่มขึ้นในวันพฤหัสบดี หลังจากเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า “เร็วเกินไปที่จะคิดที่จะหยุดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยชั่วคราว”

นักวิเคราะห์ของ ANZ Research ระบุในหมายเหตุว่า “การขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปอาจส่งผลกระทบต่อความหวังว่าอุปสงค์จะเพิ่มขึ้น” พร้อมชี้ให้เห็นสัญญาณของอุปสงค์ที่ลดลงในยุโรปและสหรัฐอเมริกา โดยมีคนขับรถน้อยลง และ Amazon เตือนถึงยอดขายที่ลดลง ซึ่งอาจทำให้ความต้องการกลั่นลดลง