ราคาน้ำมันดิบโลกปิดพุ่งกว่า 3% ขึ้นใกล้ 80 ดอลลาร์ หลังมีราคาลงต่ำสุดใน 4 เดือนกว่า

107
0
Share:
ราคา น้ำมันดิบ โลกปิดพุ่งกว่า 3% ขึ้นใกล้ 80 ดอลลาร์ หลังมีราคาลงต่ำสุดใน 4 เดือนกว่า

ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2023 ที่ผ่านไป พบว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 75.11 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +2.11 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +3.03% ขณะที่เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบปิดต่ำสุดในรอบ 4 เดือน 1 สัปดาห์ หรือตั้งแต่ 7 กรกฎาคมผ่านมา

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ สหรัฐอเมริกา พุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 79.91 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +2.49 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +3.2% เมื่อวันพฤหัสบดีผ่านมา ราคาน้ำมันดิบปิดต่ำสุดในรอบ 4 เดือน 1 สัปดาห์ หรือตั้งแต่ 7 กรกฎาคมผ่านมา

ในปี 2022 ผ่านไปราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

สาเหตุจากนักลงทุนกังวลกับภาวะตลาดน้ำมันดิบตึงตัว ท่ามกลางเศรษฐกิจสหรัฐมีสัญญาณอ่อนแรงเนื่องจากตัวเลขแรงงานขอใช้สิทธิสวัสดิการช่วงว่างงานรายสัปดาห์พุ่งสูงขึ้นในรอบ 3 เดือน ในขณะที่ตัวเลขยอดขายปลีกในเดือนตุลาคมร่วงเป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือนผ่านมา เนื่องจากยอดขายรถยนต์และการใช้จ่ายในช่วงวันหยุดยาวลดลง ด้านสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ หรือไออีเอ เปิดเผยว่า ได้ปรับเพิ่มการคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันดิบทั่วโลกทั้งในปี 2023 นี้ และในปี 2024 ด้วย

กลุ่มโอเปกพลัสประเมินความต้องการใช้น้ำมันดิบทั่วโลกในปี 2024 เพิ่มขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาและจีนจะขยายตัวขึ้น ทำให้ปัจจัยพื้นฐานของราคาน้ำมันดิบยังคงแข็งแกร่ง แต่การที่ราคาน้ำมันดิบร่วงตกต่ำเนื่องจากเกิดภาวะเทขายราคาน้ำมันดิบมากเกินราคาแท้จริง

ความหวั่นกลัวสงครามอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสที่รุนแรงต่อเนื่องเริ่มผ่อนคลายลงอีก หลังจากประธานาธิบดีสหรัฐ นายโจ ไบเดน พยายามประชุมหารือรายวันกับฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายการทูตทางทหาร เพื่อให้กลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกันออกมา

ขณะที่แรงกดดันต่ออัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาลดลงต่อเนื่อง ซึ่งจะมีการประชุมครั้งสุดท้ายของปีนี้ในวันที่ 12-13 เดือนธันวาคมนี้