ราคาน้ำมันดิบโลกร่วงหนักกว่า 7% กดราคาใกล้หลุด 120 ดอลลาร์

429
0
Share:

วันนี้ 10 มีนาคม 2565 เวลา 9.25 น. (ตามเวลาในนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา) ตลาดซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ เคลื่อนไหวที่ระดับ 116.41 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -7.29 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ -5.89% สอดคล้องกับ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ เคลื่อนไหวที่ 120.74 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -7.24 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -5.66%

สาเหตุจากนักลงทุนประเมินผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรพลังงานของสหรัฐอเมริกาที่มีต่อรัสเซียอาจไม่ส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำมันดิบในการบริโภคมากนัก จึงทำนักลงทุนเทขายราคาน้ำมันดิบร่วงลงหนาตา

ทั้งนี้ เมื่อคืนวานนี้ ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 123.70 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +4.30 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ +3.6% ทำสถิติราคาปิดสูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน และในคืนที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ สหรัฐ มีราคาระหว่างการซื้อขายพุ่งขึ้นสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 128 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือพุ่งกว่า +7% ทำสถิติราคาสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2008 หรือในรอบ 14 ปี

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 127.98 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +4.77 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +3.9% ทำสถิติราคาปิดสูงสุดนับตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2013 หรือในรอบ 9 ปี และในเมื่อคืนที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาระหว่างการซื้อขาย พุ่งขึ้นสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 132.75 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ยังมีสถิติใกล้เคียงราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 ราคาเบร็นท์ อังกฤษ ขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

สาเหตุจากประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นายโจ ไบเดน ประกาศมาตรการคว่ำบาตรพลังงานกับรัสเซีย ได้แก่ น้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ และถ่านหิน นอกจากนี้ ก่อนที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาจะประกาศมาตรการดังกล่าวในคืนที่ผ่านมา รัฐบาลสหราชอาณาจักรประกาศมาตรการจำกัดการซื้อน้ำมันดิบจากรัสเซีย โดยจะทยอยลดลงไปเรื่อยๆจนกระทั่งถึงสิ้นปี 2565 นักลงทุนจับตามองการประชุมแบงก์ชาติสหรัฐอเมริกาในสัปดาห์หน้า ที่จะมีการประบขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเป็นครั้งแรก ซึ่งส่งผลค่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ