ราคาน้ำมันดิบโลกร่วง 6 วันติดถึง 10 ดอลล์ ปิดต่ำสุดตั้งแต่ก่อนสงครามรัสเซีย-ยูเครน

ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้า นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม หรือคืนผ่านมา ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 71.02 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.44 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.7% ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบดังกล่าวลดลงเป็นวันที่ 6 ติดกัน หายไปถึง -10.20 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -12.9% หากย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 76.10 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.05 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.1% ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบดังกล่าวลดลงเป็นวันที่ 6 ติดกัน หายไปถึง -10.78 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -13.1% ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

สาเหตุจากนักลงทุนยังคงกังวลกับภาวะเศรษฐกิจโลกและสหรัฐอเมริกาชะลอตัวเข้าสู่ภาวะถดถอย ขณะที่ปริมาณสำรองน้ำมันสำเร็จรูปในภาพรวมรายสัปดาห์ในสหรัฐอเมริกาพุ่งสูงกว่าที่คาดไว้มากถึง 6.2 ล้านบาร์เรล ซึ่งเดิมคาดว่าจะเพิ่มเพียง 2.2 ล้านบาร์เรล สอดคล้องกับปริมาณสำรองน้ำมันเบนซินรายสัปดาห์ในสหรัฐอเมริกาพุ่งสูงกว่าที่คาดไว้มากถึง 5.3 ล้านบาร์เรล ซึ่งเดิมคาดว่าจะเพิ่มเพียง 2.7 ล้านบาร์เรล ด้านนักเศรษฐศาสตร์ และซีอีโอบริษัทยักษ์ใหญ่ชั้นนำระดับในสหรัฐอเมริกาล้วนมีมุมมองเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาปี 2023 ที่ย่ำแย่ในรอบ 2 ปี

ตัวเลขเศรษฐกิจจีนแผ่นดินใหญ่ ได้แก่ ดัชนีภาคบริการตกต่ำมากที่สุดในรอบ 7 เดือน ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาที่ประกาศในวันจันทร์ผ่านไป ยังคงส่งผลกระทบต่อเนื่อง ซึ่งล้วนปรับขึ้นสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ได้แก่ ดัชนีภาคบริการ ตัวเลขการนำเข้า ตัวเลขการจ้างงาน ส่งผลกดดันธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาอาจหวนกลับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นแรงกว่าที่คาดการณ์ นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพลิกกลับแข็งค่าขึ้น สอดคล้องกับผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุ 10 ปี เพิ่มสูงขึ้นเหนือกว่า 3% กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่ของโลกทั้ง 7 ประเทศ หรือกลุ่มจี 7 ประกาศการประกาศใช้มาตรการจำกัดเพดานราคาน้ำมันดิบที่ขนส่งทางทะเลจากประเทศรัสเซียที่ 60 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล มีผลตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคมนี้