ราคาประมูลยางก้อนถ้วยทะลุ 40.37 บาทครั้งแรก พ่วงราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 ทะลุกิโลละ 95 บาท

นายธนพล ดุลยกุล ผู้อำนวยการยางแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การเปิดตลาดประมูลยางก้อนถ้วย ณ โรงเก็บยางก้อนถ้วย ต. ลำภู อ. เมือง จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2567 ผ่านมา พบว่าการประมูลยางในครั้งนี้มีปริมาณยางเข้าร่วมประมูล เป็นยางก้อนถ้วยชนิดหมาด จำนวน 13,000 กิโลกรัม ยางก้อนถ้วยชนิดแห้งจำนวน 2,000 กิโลกรัม ผู้ประกอบการเข้าร่วมประมูลทั้งหมดจำนวน 8 ราย โดยผู้ที่ชนะการประมูลยางก้อนถ้วยทั้ง 2 ชนิด ได้แก่ บริษัทศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) โดยเสนอราคา ยางก้อนถ้วยชนิดหมาด ราคาสูงสุด 38.73 บาท ยางก้อนถ้วยชนิดแห้ง ราคาสูงสุด 40.73 บาท ส่งผลให้ราคาประมูลดังกล่าวสูงเกิน 40 บาทเป็นครั้งแรก และเป็นประวัติศาสตร์ ราคาประมูลที่มีราคาสูงดังกล่าวสามารถยกระดับราคาในท้องถิ่นได้ 8-10 บาท/กก. ซึ่งเกิดประโยชน์ให้ชุมชนทั้งทางตรง และทางอ้อมต่อไป

ในขณะเดียวกัน ราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 ในตลาดกลางยางพาราจังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2567 ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 95.01 บาท/กิโลกรัม ทำสถิติราคาสูงสุดครั้งใหม่ในรอบ 85 เดือน หรือ 7 ปี 1 เดือน ซึ่งในช่วงระยะเวลา 1 เดือนกว่าผ่านมา พบว่า ราคายางพาราแผ่นรวมควันชั้น 3 ปรับตัวทำสถิติราคาสูงสุดครั้งใหม่หลายครั้ง ประกอบด้วย วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ราคากก.ละ 77 บาท วันที่ 19 กุมภาพันธ์ราคากก.ละ 74 บาท วันที่ 1 กุมภาพันธ์ กก.ละ 73.39 บาท/กก. วันที่ 3 มีนาคม ราคากก.ละ 81.09 บาท วันที่ 12 มีนาคม ราคา กก.ละ 88.25 บาท และวันที่ 17 มีนาคม ราคา กก.ละ 91.71 บาท

ก่อนหน้านี้ นายสุนทร รักษ์รงค์ เลขาธิการสภาเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า นับจากในปี 2564 เป็นต้นไป ราคายางพาราจะขยับสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ในเวทียางโลกวิเคราะห์กันว่า ในอีก 3 ปีข้างหน้าคือ 2567 ราคายางจะสูงถึง 3 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 100 บาท หรือสูงสุดในรอบ 9 ปี เหตุผลจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะการระบาดของโรคใบร่วงทั่วโลกหลายล้านไร่ ที่ยังแก้ไขปัญหาไม่ได้ และจะลุกลามเพิ่มมากขึ้น

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ราคายางพาราที่พุ่งสูงขึ้นนี้ เป็นผลจากมาตรการปราบปรามการลักลอบนำเข้ายางพาราเถื่อนอย่างเข้มงวดจริงจังของรัฐบาล หากวิเคราะห์เป็นตัวเงินแล้ว ราคายางที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว สามารถทำรายได้ให้เกษตรกรชาวสวนยางเพิ่มขึ้นรวมกันมากกว่าวันละ 210 ล้านบาท ถ้าตลอดทั้งปียางมีราคาอยู่ในระดับ 72 บาทขึ้นไป รายได้ของชาวสวนยางทั้งประเทศก็จะเพิ่มขึ้นรวมกันมากกว่าปีละ 76,650 ล้านบาท ปัจจุบันราคายางได้ทะลุ 80 บาทต่อกิโลกรัมไปแล้ว รายได้ของเกษตรกรชาวสวนยาง มีรายได้รวมกันมากกว่าที่คาดการณ์ไว้อย่างแน่นอน