ราชทัณฑ์เผยผู้ต้องขังติดโควิดรายใหม่เพิ่มอีก 1,117 รายกว่า 11 เรือนจำ

นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ แถลงข่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด19 ข้อมูล ณ วันที่ 19 พ.ค.64 เวลา 11.00 น.มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันนี้ จำนวน 1,117 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 12,767 ราย แบ่งเป็นจากเรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศจำนวน 11 แห่ง ซึ่งได้มีเรือนจำ 2 แห่งที่ไม่พบผู้ติดเชื้อ คือ เรือนจำจังหวัดนราธิวาส และเรือนจำอำเภอแม่สอด โดยเรือนจำที่ยังคงมีผู้ติดเชื้อโควิดอยู่ดังนี้

.

1.เรือนจำกลางเชียงใหม่

2เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร

3.ทัณฑสถานหญิงกลาง

4.เรือนจำกลางคลองเปรม

5.เรือนจำพิเศษธนบุรี

6.เรือนจำกลางฉะเชิงเทรา

7.ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง

8.เรือนจำจังหวัดนนทบุรี

9.เรือนจำพิเศษมีนบุรี

10.เรือนจำกลางสมุทรปราการ

11.เรือนจำกลางบางขวาง

.

โดยได้สั่งการให้เรือนจำตั้งศูนย์แก้การระบาดประจำเรือนจำ และให้ทุกแห่งจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ให้ตรวจหาเชื้อโดยเร็วหากพบเชื้อโควิดให้เอ็กซเรย์ปอด จัดหายารักษาป้องกันไม่ให้เชื้อลงปอด เเละจำกัดวงการแพร่กระจาย โดยให้เพิ่มคลอรีนที่อาบน้ำเพื่อความสะอาด ให้ค้นหาผู้ต้องขังที่ไอนำมาตรวจหาเชื้อก่อน เพื่อป้องกันการระบาดที่เพิ่มขึ้นสำหรับกรณีการปล่อยตัวผู้ต้องขัง พักการลงโทษ ลดวันต้องโทษ หรือได้รับการประสานงานจากศาลยุติธรรมในการประกันตัว หรือปล่อยตัวชั่วคราว ซึ่งก่อนการปล่อยตัวจะให้เรือนจำประสานงานกับสาธารณสุขในพื้นที่เพื่อส่งต่อผู้ต้องขัง

.

และจากการสอบสวนการแพร่ระบาดในเรือนจำ คาดว่าอาจเกิดจากการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามระเบียบการเฝ้าระวัง และการป้องกันการแพร่เชื้อจากเจ้าหน้าที่ โดยได้มีมาตรการ “คนในไม่ให้ออก คนนอกไม่ให้เข้า” โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่อาจนำเชื้อเข้ามาสู่เรือนจำ แต่เนื่องจากเจ้าหน้าที่บางคนต้องไปเฝ้าผู้ป่วยที่โรงพยาบาลและติดเชื้อโควิด ถือว่าเป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ โดยจะไม่ให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานข้างนอกเข้าไปยังแดนต่าง ๆ ส่วนเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ภายในแดน หากเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงและไม่ปฏิบัติตามมาตรการของกรมราชทัณฑ์ จะดำเนินการสอบสวนและลงโทษทางวินัยตามขั้นตอน

.

ทั้งนี้ ได้สั่งการไปยังเรือนจำทั่วประเทศแจ้งข้อมูลกับญาติผู้ต้องขังเป็นระยะ รวมทั้งความคืบหน้าของอาการป่วยผู้ต้องขัง โดยสื่อสารผ่านทางโทรศัพท์ หรือช่องทางอื่น ๆ