รุกอินโดฯ ! กรุงศรี ลุยขยายพอร์ตสินเชื่อในอินโดนีเซีย สินเชื่อใหม่โตเพิ่มขึ้น 12%

216
0
Share:

นายวันชัยระบิน จิตวัฒนาธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานธุรกิจระดับภูมิภาค ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชนกล่าวว่า “Home Credit Indonesia ดำเนินธุรกิจสินเชื่อผู้บริโภคในอินโดนีเซียมาตั้งแต่ปี 2556 สามารถสร้างการรับรู้และเป็นที่จดจำของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี โดย ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2566 บริษัทมียอดสินเชื่อคงค้างกว่า 3,015 พันล้านรูเปียห์อินโดนีเซีย หรือคิดเป็นมูลค่า 7.2 พันล้านบาท และมียอดสินเชื่อใหม่เติบโตขึ้น 12% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ปัจจุบันเป็นผู้นำตลาดสินเชื่อ ณ จุดขาย หรือ POS Loan ด้วยเครือข่ายการให้บริการกระจายอยู่ทั่วประเทศอินโดนีเซียกว่า 21,000 จุด รวมถึงการมีเครือข่ายพันธมิตรร้านค้าปลีกและแบรนด์สินค้าต่างๆ ที่ได้รับความนิยมอย่างมากอีกกว่า 11,400 ราย ซึ่งเป็นจุดแข็งที่จะสามารถต่อยอดการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการอื่นๆ เพิ่มเติมเพื่อขยายฐานลูกค้า รวมถึงสร้างการเติบโตให้กับพอร์ตสินเชื่ออีกด้วย

Home Credit Indonesia มีฐานลูกค้าทั้งหมดกว่า 6.1 ล้านราย ทั้งยังเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภครู้จักและจดจำได้ด้วยอัตราการรับรู้ในแบรนด์สูงถึง 95% (จากผลสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคในประเทศอินโดนีเซียปี 2566) ปัจจุบันนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค ได้แก่ สินเชื่อ ณ จุดขาย (POS Loan) สินเชื่อเงินสด (Cash Loan) บัตรเครดิต (Credit Card) เงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) และผลิตภัณฑ์ประกัน ฯลฯ โดยมีส่วนแบ่งพอร์ตสินเชื่อ ณ จุดขาย สูงถึง 55% ส่วนใหญ่เป็นสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ในบ้าน และเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น

ทั้งนี้ ด้วยแนวโน้มการขยายตัวของการซื้อขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ เรามองเห็นโอกาสในการต่อยอดความแข็งแกร่งด้านเครือข่ายของ Home Credit Indonesia ผ่านช่องทางดิจิทัล โดยอาศัยความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ธุรกิจด้านอีคอมเมิร์ซชั้นนำในอินโดนีเซียอย่าง Tokopedia, Bukalapak และ Blibli ผนวกกับความรู้ความเชี่ยวชาญด้านสินเชื่อผู้บริโภคของกรุงศรี ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งในเรื่องการตลาด ช่องทางการขาย และการบริหารความเสี่ยงเพื่อช่วยผลักดันให้เกิดผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลายและตอบโจทย์ความต้องการของชาวอินโดนีเซียได้ดียิ่งขึ้น โดยกรุงศรียังคงดำเนินตามมาตรการพิจารณาปล่อยสินเชื่ออย่างรับผิดชอบ และมีความเป็นธรรม เพื่อคงคุณภาพพอร์ตสินเชื่อโดยรวมให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีอย่างต่อเนื่อง ด้วยความมุ่งหวังที่จะช่วยพัฒนาตลาดสินเชื่อเพื่อส่งเสริมความสำเร็จของชาวอินโดนีเซียอย่างยั่งยืนต่อไป” นายวันชัยระบิน กล่าวปิดท้าย