ลงทุนต้องบูม! “นายกฯ” ประกาศเป็นเซลแมนประเทศ ปลุกนักลงทุนดึงต่างชาติเข้าไทย

214
0
Share:
ลงทุนต้องบูม! “นายกฯ เศรษฐา ประกาศเป็นเซลแมนประเทศ ปลุกนัก ลงทุน ดึงต่างชาติเข้าไทย

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษงาน Thailand Economic Outlook 2024 : Change the Future Today หัวข้อ Empowering Economy the Big Change ระบุว่า แม้ตนเองจะเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ก็อยากให้มองว่าเป็นนักธุรกิจคนหนึ่ง เป็นเซลส์แมน ขายสินค้าดีๆ ของประเทศ ขายความเชื่อมั่น ที่นักลงทุนจะให้กับประเทศไทยให้ได้ เป็นหน้าที่หลักที่ตนได้รับมอบหมายให้นำพาประเทศไทยไปสู่เป้าหมายให้ได้ พร้อมยอมรับว่า เคลื่อนยนต์เศรษฐกิจไทย ขับเคลื่อนได้ช้ามาก ภาคเกษตรกรรมของไทย เป็นภาคส่วนที่น่าสงสารที่สุด เพราะรายได้ชักหน้าไม่ถึงหลัง และสาเหตุที่รัฐบาลต้องมีนโยบายพักหนี้เกษตรกร ก็เพราะยังมีปัญหาสภาพแวดล้อม ทั้งน้ำท่วม น้ำแล้ง แม้จะมีเงินชดเชยภัยพิบัติ ก็มั่นใจว่า เกษตรกรไม่ได้ต้องการ และต้องการมีรายได้ให้มากกว่าเงินชดเชยที่ได้รับ

ดังนั้นหากประเทศไทยไม่ท่วมไม่แล้ง เศรษฐกิจไทยจะไปได้ไกลมาก ดังนั้น การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเรื่องน้ำ เป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องทำทั้งระบบ เพราะหากรัฐบาลลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีสูง เงินลงทุนจะไหลออกนอกประเทศหมด แต่หากรัฐบาลลงทุนแก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง เงินลงทุนก็จะอยู่ในประเทศ โดยเป็นการลงทุนน้อย ใช้เพียงความใส่ใจ และแผนบูรณาการอย่างครอบคลุม ซึ่งจะทำให้จีดีพีประเทศ เพิ่มขึ้นอย่างมโหฬาร โดยไม่ต้องชดเชยภัยพิบัติใดๆ ดังนั้น รัฐบาลจึงขอเวลาระยะหนึ่ง และตรหนักดีในเรื่องดังกล่าว ซึ่งปลายสัปดาห์นี้ ก็เตรียมลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์ น้ำ และจะหาข้อมูลเพิ่มเติม โดยมั่นใจว่า ภายใน 3 เดือนนี้ จะมีการเปลี่ยนแปลงที่เป็นบวกเกิดขึ้น

ส่วนการบริหารจัดการน้ำว่า มีเสาหลักสำคัญ 4 เสา ทั้งน้ำอุปโภคบริโภค น้ำเพื่อการเกษตร และน้ำเพื่ออุตสาหกรรม ซึ่งน้ำเพื่ออุตสาหกรรมนี้ ยังเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง และต้อใส่ใจให้มากกว่านี้ ซึ่งรัฐบาล ได้เชิญนักธุรกิจ ที่มีแผนจะมาลงทุนในประเทศไทยมาพูดคุย เพื่อให้รัฐบาลมีข้อมูลในการจัดการน้ำสำหรับภาคส่วนการผลิต หากรัฐบาลไม่ให้ความสำคัญ หรือไม่ให้ความมั่นใจกับนักลงทุนในเรื่องน้ำได้ ก็จะเป็นปัญหาต่อการดึงดูดนักลงทุน ดังนั้น รัฐบาลยืนยัน และจะทำให้ได้ เพราะตนเองได้เดินทางไปต่างประเทศ ติดต่อกับบริษัทยักษ์ใหญ่ ทั้งไมโครซอฟท์ กูเกิ้ล เทสล่า และไมโครชิปอื่นๆ รวมมูลค่ากว่า 1,000,000 ล้านบาท รัฐบาลก็คาดหวังให้บริษัทเหล่านี้ เข้ามาลงทุนในประเทศไทย และยกระดับอุตสาหกรรมของประเทศไทยให้สูงขึ้น ทำให้จีดีพีของประเทศสูงขึ้น ยกระดับขีดความสามารถของประเทศให้สูงขึ้น เพราะในช่วงที่ผ่านมา ประเทศคู่แข่งขันของไทย
ประเทศไทยยังมีปัญหาเรื่องกฎหมาย ที่มีความเยิ่นเย้อ ซับซ้อน ไม่เอื้อให้เกิดการทำธุรกิจที่ตรงไปตรงมา แต่รัฐบาล ก็มีความจริงใจที่จะเแก้ไขปัญหาเหล่านี้ เพราะหลายบริษัทดังกล่าว ที่ตนเองไปพบเจอ มีหลักการเจรจาที่เป็นสากล แต่หลักการของประเทศไทย ยังไม่เป็นสากล ดังนั้น จึงจำเป็นต้องทลายกำแพงเหล่านี้ เพื่อเปิดประตูการแข่งขันอย่างเต็มที่ และกระทรวงการต่างประเทศ จะต้องเป็นหัวหอกสำคัญ ควบคู่กับกระทรวงพาณิชย์ และรัฐบาล ในการติดต่อเจรจาความร่วมมือการค้า เพื่อเปิดประตูการค้าให้ได้มากยิ่งขึ้น