ลดเป้าเศรษฐกิจเอเชียปีเสือลงเหลือ 5.2% จีดีพีไทยโตแค่ 3% โควิด-สงคราม-เงินเฟ้อ

422
0
Share:

ธนาคารพัฒนาเอเชีย หรือเอดีบี เปิดเผยว่า ได้ปรับลดแนวโน้มคาดการณ์การเติบโตประจำปีนี้ ของเอเชียลงเล็กน้อย โดยลงมาอยู่ที่ 5.2% จากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนธันวาคม ที่ 5.3% โดยให้เห็นผลว่า เกิดจากจากแรงกดดันด้านราคาสินค้าที่ ‘กำลังเพิ่มสูงขึ้น’ ภายหลังจากที่เกิดวิกฤตในยูเครน รวมถึงทั้งการระบาดรุนแรงขึ้นอีกของโควิด-19 ซึ่งกำลังส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

เอดีบี ยังเตือนให้ชาติกำลังพัฒนาระวังปัจจัยลบต่างๆ ซึ่งรวมถึงแนวโน้มที่เฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยแรง อันจะส่งผลให้ตลาดการเงินทั่วโลกผันผวน เงินทุนไหลออกอย่างรวดเร็ว และค่าเงินอ่อนลงรุนแรง

แม้เอดีบีมองแง่ดีว่า เศรษฐกิจเอเชียจะสามารถฟื้นตัวต่อเนื่องภายหลังวิกฤตโควิด-19 กระนั้นก็ตาม ทางด้าน อัลเบิร์ต ปาร์ก หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเอดีบีเตือนว่า การฟื้นตัวจะไม่สม่ำเสมอ และอาจเผชิญปัจจัยเสี่ยงขาลงอย่างรุนแรง ซึ่งได้แก่ ผลกระทบจากสงครามยูเครน และการที่ประเทศต่างๆ ต้องรับมือกับการระบาดโอมิครอน

โดยเฉพาะ ราคาพลังงานจะแพงขึ้นสำหรับประเทศที่ต้องพึ่งพาการนำเข้าพลังงาน ผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้น และกดดันอุปสงค์ โดยคาดว่า อัตราเงินเฟ้อจะแตะระดับ 3.7% ในปีนี้ จาก 2.5% ในปีที่ผ่านมา ซึ่งจะทำให้แรงกดดันด้านราคาในเอเชียจะเพิ่มขึ้น และหน่วยงานด้านการเงินต้องเฝ้าระวัง

สำหรับประเทศไทย เอบีดี มองว่า เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ 3% ในปีนี้ และเพิ่มเป็น 4.5% ในปี 2023 เนื่องจากเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างช้าๆ ตั้งแต่ช่วงไตรมาสของปีที่แล้ว และคาดว่า เศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในปีนี้ อย่างไรก็ตาม การเติบโตของเศรษฐกิจยังคงมีความเสี่ยงขาลง ทั้งการระบาดรอบใหม่ของโควิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากสายพันธุ์ใหม่ ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก รวมทั้งค่าครองชีพ และต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นในประเทศไทย

ส่วนอัตราเงินเฟ้อของไทยนั้น เอดีบีคาดว่าจะปรับสูงขึ้นตามการเพิ่มขึ้นของราคาพลังงาน โดยคาดว่าจะอยู่ที่ 3.3 % ปีนี้ และ 2.2% ปีหน้า หากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนยืดเยื้อ จะยิ่งทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับสูงขึ้นด้วย